รีวิว 16 ห้าว 19 เดือด
รีวิว 16 ห้าว 19 เดือด เรื่องย่อ
หนังดราม่าแอคชั่นวัยเรียนที่ระบุว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอดีตกับกลุ่มวัยรุ่น จ.เชียงใหม่ และปฐมบทของหนัง มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย ใน “16 ห้าว 19 เดือด” (My True Friends: The Beginning) หนังเหมือนจะเจริญรอบตามความสำเร็จจากหนังไทยแนว ๆ เดียวกันเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่คราวนี้มาพร้อมกับทัพนักแสดงวัยรุ่นเลือดใดคับคั่ง นำทีมมาโดย “ริว วชิรวิชญ์” พระเอกหน้าใหม่สุดฮอต และเมื่อคืนวานนี้ (11 เม.ย.) ชิกเนเจอร์ และ เอ็ม พิคเจอร์ส ได้ฤกษ์จัดฉายรอบปฐมทัศน์โลกของหนัง 16 ห้าว 19 เดือด อย่างเป็นทางการ ณ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธินดูหนังออนไลน์
โดยมีแขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน และแฟน ๆ กลุ่มแรกที่มีโอกาสได้พิสูจน์ชมหนังเรื่องนี้เป็นกลุ่มแรก ๆ โดยฟีดแบกแรกที่ออกมานั้น หลายเสียงระบุว่าเป็นตัวหนังกับทีเซอร์หนังค่อนข้างแตกต่าง เพราะเนื้อแท้เป็นการเล่าดราม่าเชิงมิตรภาพดูหนังฟรีมากกว่าจะต่อยตีกัน และเป็นการตีแผ่ในยุค 80s ได้ออกมาค่อนข้างน่าพอใจในระดับที่พอรับได้รีวิวหนังใหม่
เรื่องราวปฐมบทของหนังเรื่อง “มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย” ที่เคยออกฉายไปตั้งแต่ปี 2555 ผลงานการกำกับของ อัศจรรย์ สัตโกวิท โดยค่ายพระนครฟิล์ม โดย รีวิวหนัง 16 ห้าว 19 เดือด จะเป็นเหตุการณ์ที่ตัวเอกของเรื่องอยู่ในห้วงชีวิตสมัยมัธยม
16 ห้าว 19 เดือด เป็นเรื่องราวของคำว่า “เพื่อน” และ “มิตรภาพ” ระหว่างลูกผู้ชาย จุดเริ่มต้นของ “เพื่อนแท้” ที่จะคบกันไปจนวันตาย “กัน” เด็กหนุ่มที่ไม่คิดว่า การมีเพื่อนเป็นเรื่องสำคัญ ได้ย้ายโรงเรียนมาเจอกับมิตรภาพครั้งใหม่ ที่เขาไม่เคยสัมผัส แต่เหมือนเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เสียงหัวเราะ คราบน้ำตา บทพิสูจน์ของเพื่อนแท้จะนำมาซึ่งความอบอุ่นของมิตรภาพ ที่คุณคาดไม่ถึง
กัน (ริว – วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล) เด็กหนุ่มที่สูญเสียพ่อแม่ไปในอุบัติเหตุรถยนต์คว่ำ ทำให้เขาต้องคอยเลี้ยงดูน้องๆถึง 3 คน ในฐานะพี่ชายคนโต เขาจึงจำเป็นต้องแบกรับความคาดหวังเอาไว้ต่างๆนานา กระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อยในโรงเรียน ซึ่งกันทำเพื่อปกป้องน้องๆ ส่งผลให้ตัวเองถูกไล่ออกมาจากโรงเรียนก่อนจะจบชั้นม.3
ท่ามกลางความดูแลของปู่และย่า ที่ไม่เข้าใจในตัวกัน และมองว่าหลานตัวเองเป็นเด็กเกเรไม่รักดี แต่แทนที่กันจะมานั่งอธิบายความจริง เขาก็เลือกที่จะเงียบและกลายเป็นคนผิดในสายตาของคนอื่นเพื่อปกป้องน้องๆของตัวเอง จนกระทั่งกันย้ายไปเรียนที่ใหม่ในเชียงใหม่ ทำให้เขาได้พบกับสาวสวยอย่าง ปรินซ์ (มิย่า-พิชชา ทองเจือ) และแอบตกหลุมรักที่ได้ทำความรู้จัก
ทว่ากิตติศัพท์การมีเรื่องมีราวของกัน ทำให้ ก้า (โดม-เพชร ธำรงชัย) ไม่ชอบขี้หน้าของกันตั้งแต่แรกเห็น ทำให้ทั้งสองมักจะมีเรื่องกันในช่วงแรกๆ แต่ไปๆมาๆเมื่อปรับความเข้าใจกันได้ทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปโดยปริยาย
ความวุ่นวายในรั้วโรงเรียนตามประสาวัยรุ่นไปจนถึงการไม่ชอบขี้หน้าและนำไปสู่การยกพวกตีกันระหว่างอันธพาลรุ่นใหญ่ ลามเลยไปจนถึงหัวโจกของแก๊งดังในเมืองเชียงใหม่ กันในฐานะหัวหน้าแก๊งสเปิร์มที่ทั้งรูปหล่อ มีเสน่ห์และเก่งในเรื่องการชกต่อยเพราะมีพื้นฐานเรื่องมวย จึงอดทนไม่ได้ในทุกครั้งที่เขาเห็นคนอ่อนแอถูกรังแก ส่งผลให้เหล่าวัยรุ่นพวกนี้ไม่มีใครยอมใคร
สิ่งที่น่าสนใจของ 16 ห้าว 19 เดือด คือหนังดำรงตำแหน่งเป็นพรีเควลของ มึงกู เพื่อนกันจนวัน โดยเรื่องหลังนักแสดงที่มารับบทกันก็คือ หนุ่มหล่ออย่างมาริโอ้ เมาเร่อ แม้จะไม่ได้ดูเรื่องหลังมาก่อน หนังก็ไม่ได้ยากต่อการทำความเข้าใจ น่าเสียดายที่หนังมีการเลือกโลเคชั่น รวมไปถึงการเซทอัพฉากหลัง
บริบทโดยรวมให้เป็นยุคสมัย 80 อาทิ ลานโรเลอร์สเกต เพลงป๊อปวัยรุ่น เสื้อผ้าการแต่งตัว เรียกว่ามีการค้นคว้าทำการบ้านมาอย่างดี
แต่ปัญหาหลักใหญ่ๆของเรื่อง คือหนังมีลักษณะของการเป็น “ทีวีซีรีส์” ที่เล่าแต่ละฉากเป็นห้วงๆ ไม่ค่อยเชื่อมโยงกัน ยังไม่รวมไปถึงตัวละครในหนังที่เยอะแยะไปหมด ยังไม่รวมไปถึงเมื่อไหร่ก็ตามที่หนังมีเพลงประกอบฉาก ก็ให้อารมณ์เหมือนเรากำลังนั่งดูมิวสิกวิดีโอยังไงอย่างนั้น
น่าเสียดายที่ 16 ห้าว 19 เดือด ออกฉายหลังจากหนังอย่าง 4Kings ที่พูดถึงความรักของเพื่อนพ้องในประเด็นเดียวกัน แต่เรื่องหลังทำได้เข้าถึงและซึมเนื้อในถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารให้กับคนดูมากกว่า แต่โดยรวมแล้ว 16 ห้าว 19 เดือด ไม่ได้ถือเป็นหนังที่เลวร้าย และน่าจะตอบโจทย์แฟนคลับของนักแสดงนำในเรื่องได้เป็นอย่างดี
รีวิวหนัง 16 ห้าว 19 เดือด
บทหนังอาจจะดูกะท่อนกะแท่น ยังไม่ค่อยลงตัวนัก แต่ก็นำเอา ตัวละครจากใน ‘มึงกูเพื่อนกันจนวันตาย’ ดึงออกมาขยายในรายละเอียดได้ดีพอสมควร แม้จะมีบางส่วน ที่ดูแล้ว รู้สึกโดดไป ตัวหนังพาย้อนกลับไปในช่วงปี 2526 เลยจัดเต็ม สิ่งต่างๆ ที่ คนยุคนั้นเคยสัมผัส หรือโต/ทันยุคนั้น
อาทิ เสื้อผ้า(เน้นๆ โดมอน /Porcica) โทรศัพท์สาธารณะ รถ โรงหนัง โต๊ะสนุกเกอร์ รถยนต์ ซาอะเบาท์ เทปคลาสเซ็ส ลานสะเก็ต(น่าเสียดาย ไม่มีการโชว์การเล่นสเก็ต มีแค่การเต้นรำเป็นกลุ่ม) หนังสือการ์ตูน (เน้นๆ กัปตันซึบาซะ) ตู้เกมส์บทเพลงยุคนั้น (ชัดๆ คือ ใจสยิว) การเต้นรำ การยกพวกตีกันหน้าเวทีคอนเสริฐ ฯลฯ
ริว-วชิรวิชญ์ อรัญธนวงศ์ รับบท กัน ตัวละครที่แบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง เล่นเป็นตัวของตัวเอง โดยไม่อิงบุคลิกเดิม ที่มาริโอ้ ได้เคยเล่นเอาไว้ การแสดงถือว่าเอาตัวรอดไปได้
พิชชา มิย่า ทองเจือ ลูกสาวคนสวยของ พีท ทองเจือ ดูสบายๆ ไปกับบท ปริ๊นซ์ นางเอกของเรื่อง ใยไหม-ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ ดูแก่นๆ น่ารักๆ สมวัย ในบทของ เนม แน๊ก-ชาลี ปอทเจส ในบท เปา ยิบซี ตัวร้าย หนุ่มผมยาวเสื้อหนัง ที่ออกมา ดูยังไงๆ ก็ไม่รู้ว่า จะโหด เหี้ยม พอจะเป็นหัวหน้าแก๊ง
ฑาริกา ธิดาทิตย์ มารับบท คุณย่า มาช่วยเพิ่มความเข้มข้นในส่วนดราม่าด้วยแอ็คติ้งแบบจัดเต็ม แรงๆ บทเด่นในช่วงแรกๆ ก่อนที่ หายไปเฉยๆ รัศมีแข ฟ้าเกื้อกูล มาเสริมในส่วนของ มุขตลก มาสาวสองกับสองลูกสมุน ที่บังเอิญป้วนเปี้ยน ในวงวิวาทเป็นประจำ ร่วมด้วย ทัพนักแสดงหน้าใหม่
ด้วยความที่ ‘บอมบ์-อัศจรรย์’ ผู้กำกับ ผ่านงานหนังไทย ในยุคหนังนักเรียนในยุคเบ่งบาน เลยทำ ‘16 ห้าว19 เดือด’ออกมาดูแล้ว ชวนให้นึกถึง หนังวัยรุ่นยุค90 ที่มีครบทุกรส ในแบบหนังยุค90 บางช่วงก็ดูเชยๆ แต่ตรงชม องค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นช่วงยุค90 ในเรื่อง ทำออกมาได้ดี 16 ห้าว19 เดือด คือ หนังที่ดูได้เรื่อยๆ