สวัสดีครับ วันนี้เราจะมา รีวิวหนังใหม่ ภาพยนต์ไทยเรื่อง 4Kings 2022 อาชีวะยุค 90 ถ้าพูดถึงหนังนักเลงนักเรียน ก็คงต้องนึกถึงเรื่องนี้ แต่การผลิตภาพยนต์ครั้งนี้มันยังแตกต่างกันออกไป เพราะทั้งการดำเนินเรื่องไม่เหมือนหนังเก่า และ ภาพก็ดีอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงข้อคิดในภาพยนต์ ก็ทำออกมาเพื่อเป็นการสอน ได้อย่างดีเยี่ยม ความสนุกจะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านรีวิวกันเลยครับ
รีวิว 4Kings 2022 อาชีวะยุค 90 ข้อมูลหนัง และ เรื่องย่อ
เรื่องย่อ อาชีวะยุค 90 สร้างจากเรื่องจริงของความขัดแย้งระหว่างนักเรียนช่างกล 4 คน กับบทเรียนชีวิตที่ต้องเผชิญ ความคึกคะนองเมื่อครั้งยังเยาว์ที่เป็นทั้งศัตรูและมิตร
ผู้กำกับพุฒิพงศ์ นาคทอง บัณฑิตวิทยาลัยเทคนิค ราชสิทธาราม ออกเดินทางตาม ความฝันสู่คนทำหนัง อีกหนึ่งผลงานภาพยนตร์ ที่เดินทางไกล ไต่เต้าตั้งแต่เด็กจนมาเป็นผู้ช่วย ผู้กำกับของ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค
หยิบเรื่องที่ได้ยินสมัยเรียน มาเขียนบทและหาทุนสร้าง หลายปีที่ผ่านมา ฉันเกือบคิดว่าโครงการจะล้มเหลว แต่สุดท้ายก็ได้มาทำหนังสารคดีกับ Invention Film Camp ค่ายหนังไทยน้องใหม่ที่ดูน่าสนใจมาก
และอาจด้วยการต่อสู้เพื่อผลักดันความฝันนั้นมาเนิ่นนาน ดูเหมือนเรื่องราวที่เขาอยากจะเล่าจะสุกงอมเสียที ประหยัดเนื้อ ถนอมแรง แล้วมาทำหนังเรื่องนี้ ถ้าถามว่าอารมณ์เหมือนหนังเรื่องไหนก็ 2499 เวอร์ชั่นขรึม คมคายขึ้นตามความเป็นจริงแห่งกาลสมัย
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังกล่าวถึง “โลกทั้งใบมีไว้สำหรับคุณเท่านั้น” ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในประเทศไทยที่มีเด็กคนนี้อยู่ด้วย
ประเด็นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการให้ไซบอร์กตัวจริงเข้ามามีส่วนร่วมในไซบอร์กยุค 90 จนได้เนื้อหาที่สมจริงเพื่อบอกเล่าเรื่องราว ทุกรายละเอียดในภาพยนตร์คือการรวบรวมชีวิตและบทเรียนของผู้คนมากมายที่มารวมกันเพื่อสร้างตัวละครแต่ละตัว
มันยังเป็นตัวแทนของบุคคลจริง ซึ่งหลายคนยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน แต่ผู้กำกับก็ฉลาดพอที่จะสร้างเรื่องราวสมมติขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้คนจริงๆ และในด้านบวก มันทำให้ตัวละครรู้สึกหวาดระแวงมากขึ้น

วิจารณ์ภาพยนต์จากความคิดส่วนตัว
สิ่งแรกที่ฉันเห็นหลังดู 4คิงเต็มเรื่อง คือการคัดเลือกนักแสดงนั้นค่อนข้างดี นานมากแล้ว ที่ฉันไม่เห็นทีมงานที่สามารถเลือก การคัดเลือกนักแสดงใน เรื่องได้ ตัวละครในเรื่องมีค่อนข้างน้อย ทีมสร้างจึงเลือกโฟกัสไปที่ ใจไทย ทศมิตร หรือ บิลลี่ อินทนนท์ ตัวละครของ อิชณากร พึ่งเกียรติรัศมี นำผู้ชมผ่านโลก ของเขาอย่างผู้นำพร้อมกับ สองเพื่อนซี้ ดา อินทนนท์รับบทโดย เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ ซึ่งเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นใหม่ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มเพื่อนด้วย และอีกคนคือ รูปอินทร์ อินทนนท์ รับบทโดย ภูมิภูมิ รังสิตธนานนท์ ซึ่งเป็นตัวร้ายของกลุ่มโรงเรียนอินทนนท์
จริงๆ แล้วชื่อ 4Kings ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ามี 4 องค์กรที่เป็นคู่แข่งกัน แต่เรื่องราวจะเล่าผ่านมุมมอง ของฝ่ายอินทรวชิวะเป็นหลักโดยเน้น ไปที่เทคโนโลยี ประชาชื่นคู่แข่งตัวฉกาจ (บิดจากของจริง ชื่อเทคโนโลยีประชาชื่น) โดยมีตัวละครหลัก ได้แก่ มด ชล หัวหน้าทีมที่รับบทโดยโจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัตน์ และมือขวา โอ ชล รับบทโดย ณัฏฐ์ กิจจาฤทธิ์
และจะมีอีกสองหน่วยงานที่แย่อย่าง กนก อาชีวะ และ ช่างคอน บูรณผล ที่เข้ามาแทรกเป็นระยะผ่านวาทยกรอย่าง บางกนก รับบทโดย แหลม สมพร รุ่งพาณิชย์ หรือ แหลม 25Hours และ เอกบู รับบทโดย ทู ศิรัฏฐ์ อินทรโชติ หนังค่อยๆ พากลุ่มอินทราไปทำความรู้จักกับกลุ่มอื่นๆ ผ่านตัวละคร บิลลี่ มีเหตุผลที่จะต้องเผชิญหน้ากันกับโอ๋ ชล และเอกบู่ในบางช่วงเวลา
วางตัวละครป่วนๆ อลหม่าน แทนที่จะทำตัวฉลาดเหมือนกลุ่มเด็กบ้านนอกที่รู้จักกันในชื่อ Village Kids นำโดยเด็กบ้านนอกชื่อ ยัท รับบทโดย บิ๊ก อุกฤษฏ์ วิลลี่ ดอน กาเบรียล หรือ ดี เจอร์ราร์ด ในขณะที่ภาพยนตร์แนะนำตัวละครสำคัญทั้งหมด
ยังแสดงให้เห็นความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างตัวละครในโลกที่เป็นปรปักษ์ บางคนเป็นศัตรูที่ยอมรับความเคารพของอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อนบางคนมีการแบ่งขั้วและพวกเขาต้องเลือกระหว่างเพื่อนสถาบันกับเพื่อนที่มีอำนาจเสมอ สิ่งนี้ทำให้เนื้อหามีมิติที่ซับซ้อนเพียงพอที่จะสร้างสถานการณ์ที่โน้มน้าวใจตัวละครหลายตัว
สิ่งที่ฉันชอบอีกอย่างคือการสร้างบทสนทนา มีบทสนทนาที่ดีจริงๆ ระหว่างความขัดแย้งของตัวละครที่เจ็บปวดในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ระหว่างศัตรูเท่านั้น แต่ระหว่างลูกกับพ่อแม่ เพื่อนกับเพื่อน ครูกับนักเรียน แฟนกับคนรัก แม้เรื่องราวจะเชยเหมือนที่เราเห็นในหนังสะท้อนสังคมแทบทุกเรื่องแต่บทสนทนาในเรื่องกลับสร้างเอกลักษณ์และน่าจดจำ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการเปิดตัวและชิมลางค่ายหนังน้องใหม่เพื่อเสริมทัพและประดับวงการภาพยนตร์อีกค่ายหนึ่ง นั่นคือ ค่ายสร้างภาพยนตร์ ถือได้ว่าเป็นค่ายที่กล้าได้กล้าเสียและเป็นค่ายที่น่าจับตามอง เพราะ “4Kings” กลายเป็นหนังไทยที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมได้มากมายด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวและกลมกล่อมในระดับที่ใช้ได้ ถือว่าเป็นหนังไทยที่ถ่ายทอดความอร่อยได้อย่างพอเหมาะพอดี
เราอาจไม่เคยได้ยินชื่อ “พุทธิพงษ์ นาคทอง” ซึ่งรับหน้าที่ผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ แต่งานนี้ได้กลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่ประดับประดาอาชีพของเขา ใส่ใจในรายละเอียดดี การเล่าเรื่องน่าจะใช้สูตรชนะช่วยได้เยอะ แต่ดูลงตัวกับหนัง ไม่รู้สึกอัดแน่นด้วยฉากดราม่าเข้มข้นหรือชุลมุน ซึ่งไม่มาก ไม่เพียงพอในมาตรฐาน

จุดเด่น และ จุดด้อยของภาพยนต์
องค์ประกอบของ 4Kings 90 อาจไม่สมบูรณ์แบบ เพราะระหว่างทางยังมีช่องว่างและช่องโหว่อยู่ แต่เนื้อหาที่ตึงเครียดของภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถช่วยปิดแทร็กได้ เป็นเรื่องดีที่ผู้ชมจะไม่ใส่ใจในจุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของภาพยนตร์ ถือว่าสอบผ่านและทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการวางโครงเรื่องหรือการสร้างมิติให้กับตัวละคร
รวมถึงการใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวบรวมทุกรายละเอียดของยุค 90 ที่ทีมงานและผู้สร้างสามารถเห็นได้ในงานที่มีรายละเอียดทั้งในรูปแบบของชื่อและวัตถุต้องยกย่องว่างานดีคือหนังแบบนี้ น่าเสียดายที่มันยาวไปหน่อยในครึ่งหลังของหนัง ผมเชื่อว่าถ้าใส่ให้สั้นลง ปรุงให้รัดกุมกว่านี้อีกนิด และลดเหลืออีก 10 นาที การใส่มากเกินความจำเป็นคงจะดีกว่านี้
แน่นอนว่าไฮไลท์สำคัญของทีมนักแสดงต้องได้รับคำชมและยินดีรับบทบาทที่มีการแข่งขันสูงในการคัดเลือกนักแสดงฉากนี้ ทีมนักแสดงชาย 4Kings ถือว่าเป็นทีมที่ดีที่มีครบ พวกเขายังสามารถขับเคลื่อนและสร้างมิติของตัวละครที่กำหนดขึ้นใหม่ได้ ยังเป็นโอกาสดีที่หนังเรื่องนี้จะได้นักแสดงที่เล่นได้แทบทุกบทบาท
4 kings อาชีวะยุค 90’s นักแสดง “เป้ อารักษ์” คนเดียวอาจแบกหนังเรื่องนี้ไว้ไม่อยู่ แม้ว่าผลงานของเขาจะไม่เลวเลยก็ตาม กลับได้รับแรงสนับสนุนจากเพื่อนนักแสดงตัวประกอบอย่าง “ภูมิ รังษีธนานนท์” หรือ “อิชณากร พึ่งเกียรติรัศมี” (ใจไทย ทศมิตร) โดยเฉพาะเรื่องหลังนี้ถือเป็นการแสดงที่มีศักยภาพเกินความคาดหมาย

ความรู้สึกหลังดู 4Kings 2022 อาชีวะยุค 90 จบ
เหนือสิ่งอื่นใด มันไม่ใช่แค่การโต้เถียงเท่านั้น แต่ก็เต็มไปด้วยแง่ดีเช่นกัน ผู้ใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์โลกมามากพอแล้ว ที่สำคัญคือ อย่าตัดสินตัวละครจากค่านิยมของสังคมเลย ผู้ใหญ่ไม่ได้ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้เสมอไป เด็กอาจมีเหตุผลที่ดีกว่าในความคิดของเขา ในยุคของเหตุและผลเช่นนี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากในฐานะภาพยนตร์เพื่อสังคม
สำหรับสิ่งที่ดีทั้งหมดภาพยนตร์เรื่องนี้มีข้อบกพร่อง ที่กล่าวว่า มันไม่เป็นไปตามความคาดหวังของผู้ชมที่ต้องการเห็นการกระทำที่เข้มข้นและเป็นลูกผู้ชายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีให้ หนังตัดความรุนแรงอย่างฉากต่อสู้ข้ามมิติออกไปได้ค่อนข้างมาก
และคอนเสิร์ต Shock Charge Shock ครั้งใหญ่ระดับตำนานที่หลายคนรอคอยก็แทบจะไม่คุ้มค่ากับการรอคอย บวกกับความยาวหนัง 2.5 ชั่วโมง
ทำให้มีเรื่องราวให้เล่ามากมาย ใครที่คาดหวัง หนังแอคชั่น คงจะผิดหวังมาก แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันคิดว่ามันใจร้ายสำหรับใครก็ตามที่เห็นปมด้อยแบบนี้แล้วตัดสินหนังทั้งเรื่อง เหมือนที่ตัวละครในหนังบอกว่า “ดูทางนี้ ใครทำบ้าๆ” 4 king เต็มเรื่อง netflix บอกเลยห้ามพลาด

สรุปบทความรีวิวหนัง
สิ่งนี้สำคัญมาก ใครที่จะตัดสินใจดูต้องเข้าใจก่อนว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแอคชั่นอันธพาลเหมือนหนังเด็กนักเรียนญี่ปุ่นที่วัยรุ่นชอบ แต่นี่เป็นหนังดราม่าที่เข้มข้นมาก และภาพความรุนแรงก็ไม่สำคัญเลย
เพราะความรุนแรงต่ออารมณ์ และ ความรู้สึกของผู้ชมนั้นบอกเลยว่า มันสาหัสสากรรจ์กว่ามาก ๆ ต่อให้เป็นผู้ชายแมน ๆ ขนาดไหนยังไง คุณก็มีโอกาสโดนสักฉากแหละที่ในหนังที่ทำเอาน้ำตาร่วงได้แน่นอนเลยล่ะ นี่จึงเป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้วจะรู้สึกเลยว่าอยากบอกต่อใครสักคนเลยว่า ของมันดีจริง ๆบอกเลย
สรุปแล้วหลังจาก ดูหนัง4king สำหรับ 4Kings ในยุค 90 ถือเป็นหนังแอคชั่นที่น่าช่วยลบมลทินและเปลี่ยนทัศนคติของคนไทยที่มีต่อหนังไทยให้กับคนรุ่นหลังได้
นี่คือหนังไทยที่คนไทยอยากดู ในบางครั้งแม้ว่าตัวหนังจะไม่สมบูรณ์แบบในทุกองค์ประกอบ ข้อดีของหนังก็ยังมีมากกว่าข้อเสีย ตลอด 2 ชั่วโมงของภาพยนตร์ ผู้ชมจะคุ้มค่ากับเรื่องราวของพวกเขา…
