รีวิว King Arthur: Legend of the Sword คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์

หนังเท่ เท่เหมือนดูโฆษณาเสื้อผ้าผู้ชาย กับคาแร็กเตอร์ทรงเสน่ห์ มีหลายขนาดจนจำแทบไม่หมด ภาพเจ๋ง องค์ประกอบเรียบร้อยมาก ทิวทัศน์ การแสดง CG เจ๋งหมด ดูเหมือนว่าผู้กำกับจะใช้ความเจ๋งของเขาทำอาหารให้นักแสดงแทนขนมปัง ไม่เคยคิดจะสนใจพระเอกหนังฟอร์มยักษ์หน้าใหม่อย่าง ชาร์ลี ฮันแนม และตอนนี้กลายเป็นว่าประทับใจ

การตัดต่อและการเล่าเรื่องยังเน้นรูปแบบที่ยืดหยุ่น ลอยเหมือนมูฮัมหมัดอาลีด้วยความตื่นเต้นเป็นพิเศษ นักดูหนังในยุคใหม่นี้ควรชื่นชมยินดี แต่สำหรับคนที่ดูอะไรเร็วๆ ไม่ได้ นี่อาจเป็นปัญหาได้ เพราะมันเปิดเรื่องไม่ถึงห้านาที

มีคนเล่าเรื่องราวดั้งเดิมมากมายจนไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีใครรู้จักคิม อาเธอร์เคยสับสนมาก่อนไหม? แต่พอเข้าโหมดเล่าเรื่องปกติก็ลื่นไหล เปิดฉากซ้ำบ่อย ๆ เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าทึ่งอยู่เสมอ นี่คือสิ่งที่คุณควรได้ยินในโรงภาพยนตร์ที่มีระบบเสียงที่ดีจริงๆ

น่าจะเห็นได้จากข่าวหนังที่เบ็คแฮมร่วมแสดงด้วยเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งก็น่าตกใจอยู่ไม่น้อย

คิงอาเธอร์ เธอคือใคร?

The Tale of King Arthur and the Knights of the Round Table นี่คือตำนานเก่าแก่ของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ เพิ่มเรื่องราวความรักเข้าไปในเรื่องราวแฟนตาซีเทพนิยายดั้งเดิมจนกลายเป็นตำนานไปทั่วโลก สื่อของแฟนตาซีคือภาพยนตร์

ภาพยนตร์ คิง อา ร์ เธอ ร์ ภาค 1 ถูกสร้างมานับครั้งไม่ถ้วน ตัวอย่างเช่น เวอร์ชันสุดท้ายที่อยู่ในใจคือเวอร์ชันสงครามของผู้กำกับ Antoine Fuqua ในปี 2004 แต่เมื่อมองย้อนกลับไป เรื่องแรกที่ Wang Arthur นำเสนอต้องเป็นภาพยนตร์เงียบจากยุคองค์กร

สร้าง Parsifal ของ Edison (1904) นำบทละครเกี่ยวกับ Percival อัศวินผู้ยิ่งใหญ่ผู้ค้นพบจอกศักดิ์สิทธิ์ แต่งขึ้นในปี 1882 โดย Richard Wagner นักแต่งเพลงชื่อดังระดับโลก

ที่ต้องเริ่มก็เพราะต้องบอกว่าหนังและสื่อต่างๆส่วนใหญ่มักจะเน้นไปที่เรื่องราวของกษัตริย์อาเธอร์ที่ได้รับดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ การผจญภัยของอัศวินโต๊ะกลม และพลังวิเศษของพ่อมด เวลาเหมือนเมอร์ลินและเรื่องราวความรักต้องห้ามของแลนสล็อตและราชินี ภูเขาแบบนี้คืออะไร? แต่คราวนี้เราจะได้สนุกไปกับการเปิดตำนานบทใหม่ที่เล่าขานกันมาตั้งแต่อาเธอร์กำเนิดขึ้น

นี่คือกษัตริย์อาเธอร์ที่เท่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ภาพยนตร์ king arthur พากย์ไทย ของ Guy Ritchie ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานที่มีสไตล์อย่าง Snatch (2000) และ Sherlock Holmes ที่นำแสดงโดย Robert Downey Jr. เป็นภาพยนตร์ Arthurian ที่เจ๋งที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา

ใครก็ตามที่เคยดูผลงานของผู้กำกับจะต้องเคยชินกับสไตล์อันเชี่ยวชาญของเขา ซึ่งใช้ฉากบทสนทนาแบบสโลว์โมชั่นพร้อมคัทอย่างรวดเร็ว และความหน้าตายแบบหลอกๆ ที่ทำให้คุณจ้องไปที่การออกแบบฉาก เครื่องแต่งกาย และตัวละครโดยไม่กระพริบตา เช่นเดียวกับรุ่น Louis Vuitton, Armani, Calvin Klein ที่ชนกันในยุคกลาง

อีกอย่างกรอบรูปโชว์ก็สวยเหมือนโฆษณาหรูๆ เทียม? แต่คุณจะทำอย่างไร? ยอมรับว่าตอนนั่งดูแอบสบถในใจว่าดูหนังจบกี่รอบไม่รู้กี่รอบ เจ๋ง. หนังเรื่องนี้.

นี่คือผลงานของผู้กำกับ “กาย ริทชี่” ผู้สร้างภาพยนตร์ที่เป็นที่รู้จักจากสไตล์ภาพยนตร์สุภาพบุรุษที่คงเส้นคงวา การตีความนี้มีกลิ่นของ Ritchie ค่อนข้างแรง แม้ว่าจะถูกมองว่าเป็นการหยิบเอาตำนานที่ซ้ำซากจำเจ

มีการกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าและมีความแปลกใหม่เล็กน้อย แต่คราวนี้แสดงให้เห็นบนหน้าจอว่าการดัดแปลงใหม่นี้ยังสามารถโจมตีปัญหาในรูปแบบอื่นได้โดยตรง

หนังเล่าเรื่องราวของอูเธอร์ พ่อของอาเธอร์ (เอริค บานา) ราชาแห่งคาเมล็อตที่ต้องรับมือกับจอมเวทย์มอร์เดร็ด (ตามนิยาย ศัตรูตัวฉกาจที่นำไปสู่ความตายของอาเธอร์) ที่บุกเข้ามา แม้ว่าเขาจะล้มศัตรูได้ ต้องถูกเจ้าชายเวอร์ทิแกน (จูด ลอว์)

น้องชายของเขาก่อการกบฏอีกครั้ง ส่งผลให้อูเธอร์เสียชีวิต ผู้พลัดถิ่นและเติบโตในซ่อง ทายาทหนุ่มลืมชาติกำเนิดของตน อาเธอร์ (ชาร์ลี ฮันแนม) ซึ่งเติบโตมากับการต่อสู้ชีวิตข้างถนน กลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์แต่ไม่ยอมให้ใครมารังแก จนต้องหนีออกจากเมือง

โชคชะตาทำให้เขาถูกทดสอบให้ชักดาบของกษัตริย์ Uther ตามคำทำนายว่าจะเป็นรัชทายาทที่แท้จริงของบัลลังก์ที่สาบสูญ ซึ่งในขณะที่ King Vertigan เริ่มสงสัยก็จะถูกล้างแค้น

นั่นเป็นเหตุผลที่คนที่อายุไล่เลี่ยกับหลานชายของเขาถูกบังคับให้พยายามฆ่าพวกเขาก่อนที่จะกลายเป็นภัยคุกคาม ตัวละครเวอร์จิเนียนี้น่าสนใจมาก อาจเป็นตัวละครที่มีมิติมากที่สุดในภาพยนตร์ คนร้ายเห็นก็สมเพชแต่ก็ร้ายกาจในตัวเองเช่นกัน จู๊ด ลอว์ ก็เล่นบทเทพเช่นกัน

เรื่องราว king arthur legend of the sword ซับไทย หลังจากนี้เป็นเรื่องของการต่อสู้ของ Arthur เพื่อทวงคืนบัลลังก์ มีฝูงชนเข้ามารุมล้อมเพื่อช่วยเหลือนักเวทย์หนุ่ม เมอร์ลิน (แอสทริด เบอร์เจส-ฟริสบี) อดีตทหารของอูเธอร์ (ดิจิมอน ฮอนซู) เพื่อนเก่าที่เติบโตมาด้วยกัน และกลุ่มกบฏ (เอแดน กิลเลนและแอนนาเบล วอลลิส) ที่ทนการกดขี่ไม่ได้ คลุกคลีกับหนังแนวแฟนตาซี สนุกกับมัน. ให้ฉันบอกคุณ.

ข้อดี-ข้อเสีย หลังจากดู ดูหนัง King Arthur Legend of the Sword

ข้อดีอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ ประทับใจมาก คิดว่าควรไปดูในโรง คือคุณภาพของภาพ CG ที่เนียนและคมชัด (ยกเว้นฉากคำทำนายที่ดูเหมือนจงใจลอย) ภาพได้รับการออกแบบอย่างสวยงามสำหรับการรับชมบนจอขนาดใหญ่ และคุณภาพเสียงก็ยอดเยี่ยม

ทุกครั้งที่เปิดเพลง ฉันรู้สึกว่าหนังสนุกมากขึ้น ดนตรีที่มีชีวิตชีวาสามหรือสี่เท่าให้ความรู้สึกแบบยุคกลางและทันสมัย ​​และดีมากที่คุณต้องฟังมันด้วยระบบเสียงที่ดีจริงๆ

หนังสร้างความสมดุลให้กับความน่าดึงดูดได้เป็นอย่างดี ตัวละครชายมีเสน่ห์มาก บางตัวก็น่าเกลียดที่จะยืนด้วย เช่นเดียวกับนางแบบแคทวอล์ค ผู้ชมหญิงจะ prem ในบรรดาผู้ชมชายมีตัวละครหญิงน้อยแต่ไร้คุณภาพ

เช่น Annabelle, Wallis หรือ Ast. Rid Burgess-Frisby ซึ่งมีเสน่ห์แปลกมาก ยิ่งคุณชมเธอมากเท่าไหร่ จนสุดท้ายก็กลายเป็นจ้องเธอทุกครั้งที่เธอออกมา สรุปแล้วทั้งชายและหญิงสามารถรับชมได้อย่างจุใจ

ข้อเสียของหนังที่ผมจำได้คือวัยรุ่นเล่าเรื่องได้มากที่สุด ใครแก่กว่าก็โดนตัดทิ้ง มันเริ่มช้าและฉันก็พร้อมที่จะสูญเสีย อาจไม่เข้าใจทันทีว่ามีการวางแผนสถานการณ์สำหรับทีมของ Arthur และ Arthur ขอให้จำลองเหตุการณ์ บทสนทนาเด้งไปมาระหว่างห้องประชุมกับสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นจริงในจินตนาการของเรา

แต่สุดท้ายแล้ว Arthur เป็นเพียงสมมุติฐานและไม่ต้องการทำเพราะมันไม่ได้ผล โอ้ และฉากเดียวที่ฉันเคยพูดด้วยน่าจะไม่เกิน 2 นาที การตัดนั้นรวดเร็ว แต่มีสคริปต์มากมายที่บอกเล่าเรื่องราว สบายมากสำหรับวัยรุ่น ฉันชินกับหนังอิสระมากขึ้นเรื่อยๆ สบายมาก แต่พอโตแล้วเราว่ามันเร็วไปนะ หนุ่มๆ ยังหุบปากไม่ได้เลย 5555555555