รีวิว Minions 2 The Rise of Gru
รีวิว Minions 2 The Rise of Gru มินเนียนมาจากไหน ?
รีวิว Minions 2 The Rise of Gru ตั้งแต่ Despicable Me ปี 2010
Despicable Me 2 (2013)
Minions (2015)
Despicable Me 3 (2017)
จนมาถึง Minions: The Rise of Gru (2022)
กว่า 12 ปี ที่ผู้คนทั่วทั้งโลกได้รู้จักกับ มินเนียน
สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวสีเหลือง ยุคดึกดำบรรพ์ ที่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า พวกเขากำเนิดมาบนโลกได้อย่างไร แม้ว่า มินเนียนจะมีหลายนิสัย หลายตัว หลายชื่อ แต่สิ่งสำคัญคือ พวกเขามีเป้าหมายเดียวกัน คือการรับใช้จอมวายร้ายในโลกใบนี้ การเจอบอสไม่ยาก แต่ยากตรงรักษาชีวิตบอสให้ปลอดภัย ตั้งแต่ไดโนเสาร์ ฟาโรห์ แดร็กคูล่าร์ จนถึง กรู!!
และพวกมินเนียนส์ก็กลับมาอีกครั้ง..! หลังจากที่พวกเขาโผล่ไปแจมเป็นองค์ประกอบให้หนังภาคหลัก พวกมันก็กลับมาสานต่อในหนังของตัวเองอีกครั้งใน “Minions 2: The Rise of Gru” ที่แน่นอนว่ากลับมาคราวนี้ พวกเขายังคงฉายเสน่ห์อันเหลือล้นออกมาได้อีกเช่นเคย แม้ว่าจะสัมผัสได้ถึงความตันของไอเดียที่พามาในทิศทางนี้บ้างก็ตาม แต่อย่างน้อย ๆ เหล่าชาวมินเนียนส์ก็ยังสร้างความบันเทิงเริงใจได้เหมือนเคย
Minions 2: The Rise of Gru เล่าเรื่องราวหลังจากที่พวกมินเนี่ยนออกตามหาบรรดาวายร้ายสุดโฉดมาทุกยุคทุกสมัย ปั่นป่วนจนมาเจอกับหนูน้อย กรู เด็กหนุ่มน้อยที่วาดฝันจะกลายเป็นวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยบรรดาลูกสมุนตัวสีเหลืองที่เหมือนจะช่วย แต่ดันป่วนมากกว่า คราวนี้กรูได้เดินทางไปยังสถานที่เป็นเหมือนสภาของบรรดาวายร้ายที่ชื่อ Vicious 6 เพื่อต้องการเป็นวายร้ายเต็มตัว แต่ด้วยความที่เขายังเป็นเด็ก ทำให้บรรดาวายร้ายไม่ยอมรับดูหนัง
แน่นอนว่าความฝันของกรูแน่วแน่เกินสิ่งใด เขาเลยตัดสินใจพิสูจน์ตัวเองด้วยการขโมยอัญมณีล้ำค่าของวายร้ายตัวแม่ เบลล์ บัทท่อม ทำให้วายร้ายทั้งหมดแห่ง Vicious 6 ออกตามล่าเขาในทันที ไม่ว่าจะเป็นวายร้ายจอมพลัง, แม่ชีสายบู๊ผู้มีกระบองสองท่อนเป็นอาวุธ หรือจะเป็นมนุษย์ที่มีแขนเป็นก้ามปู แต่กรูก็ไม่น้อยหน้า เพราะเขามีบรรดาเหล่ามินเนียนและจักรยานติดไอพ่นคู่ใจ กรูตัดสินใจใช้แผนแยกย้ายหลอกล่อ โดยให้หนึ่งในมินเนียนที่ชื่อ อ็อตโต้ เอาอัญมณีหนีแยกไปอีกทาง ส่วนเขาจะเป็นคนล่อพวกวายร้ายเอง,ดูหนังออนไลน์
ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปตามแผน และกรูกำลังจะได้ประกาศศักดาเป็นวายร้ายหน้าใหม่ที่ร้ายกาจที่สุด แต่เมื่อเจ้าอ็อตโต้เอาอัญมณีออกมาให้ มันกลับกลายเป็นก้อนหินเด็กเล่น ซึ่งเจ้าอ็อตโต้ก็ได้เล่าถึงที่มาที่ไปว่าระหว่างหลบหนี มันก็ดันหลงไปอยู่ในบ้านของเด็กคนหนึ่งที่กำลังจัดงานวันเกิด แล้วบังเอิญไปเห็นเจ้าก้อนหินเด็กเล่นชิ้นนี้เข้า มันตกหลุมรักในทันที ก่อนจะตัดสินใจแลกอัญมณีกับก้อนหินเด็กเล่น สำหรับกรูแล้วนี่ก็เป็นเหมือนการเอาอนาคตของเขาไปโยนทิ้งเลยทีเดียว เรื่องราวความปั่นป่วนจะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามกันต่อไป
มาในภาคนี้ได้ผู้กำกับมาเป็นแพ็คถึง 3 คนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น “ไคล์ บัลดา” (จาก Minions ภาคที่แล้ว), “แบรด อเบลสัน” (จากหนังสั่น Yellow Light) และ “โจนาธาน เดล วัล” (จาก The Secret Life of Pets 2) ที่ไม่รู้ว่าการผนึกกำลังในครั้งนี้จะหมายถึงมาช่วยกันพยุงหนังเรื่องนี้ให้สตรองขึ้นหรือไม่ แต่บอกได้เลยว่า…ผู้กำกับยิ่งเยอะก็ยิ่งทำให้หนังรู้สึกวิ่งกันไปคนละแฉกมากยิ่งขึ้นไปด้วย
Minions 2: The Rise of Gru ก็ยังคงมาพร้อมกับสูตรสำเร็จเดิม ๆ แบบภาคที่แล้วเกือบจะเป๊ะ คือหนังกะมาขายความบันเทิงและความน่ารักแบบไม่รู้ประสีประสาของมินเนียมส์ให้เพลิน ๆ ซึ่งแน่นอนว่าตรงจุดนั้นหนังก็สามารถตอบโจทย์ผู้ชมและสร้างสีสันความสนุกได้ดีตลอดทั้งเรื่องนี้ ความใสซื่อสไตล์มินเนียนส์ก็ยังคงมีเสน่ห์อยู่ต่อไป เหล่าตัวจี๊ดดดด! อย่าง บ็อบ, เควิน, สจ๊วต ยังคงแสบสันต์เหมือนเคย เพิ่มเติมในภาคคือ อ็อตโต้ ที่เป็นสมาชิกตัวป่วนขโมยซีนประจำเรื่องนี้รีวิวหนังใหม่
คือก็ต้องยอมรับเลยว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 90 นาทีของหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความบันเทิงที่ชวนขำแบบทำงานได้ดี แต่หากว่ามองถึงแก่นแท้และเนื้อในของหนังเรื่องนี้นั้น กลับพบว่าหนังแทบจะไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนสักเท่าไหร่เลย ตอกย้ำความจำเจเข้าไปซ้ำอีกเมื่อภาคนี้ยังเป็นภาคเล่าย้อนไปสมัยที่ กรู ยังอายุแค่ 10-11 ขวบ ตอนที่หัดเป็นวายร้ายตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งประเด็นนี้เราน่าจะเคยได้ยินได้ฟังมาแล้วจากในหนัง Despicable Me หลากหลายภาค…จริงไหม?ดูหนัง,
ทำให้ Minions 2: The Rise of Gru เป็นการเล่าเรื่องวนอยู่ในอ่าง เนื้อหาอาจจะมีแค่เพียงหยิบมือเดียว แต่ถูกนำมาแผ่ขนาดออกไปด้วยการสร้างสีสันและมุกตลกใส ๆ ของพวกมินเนียนส์ หากมาพิจารณาในองค์ประต่าง ๆ ดูนั้น หนังยังค่อนข้างขาดความใส่ใจในเนื้อหาอยู่ในหลายจุด โดยเฉพาะกลุ่ม Vicious 6 ที่ใส่เข้ามาไม่ต่างกับตัวประกอบในหนังการ์ตูนที่ฉายตอนเช้าวันเสาร์อะไรทำนองนั้นเลย เป็นตัวร้ายที่ไร้ซึ่งน้ำหนักและที่มาที่ไป คือเหมือนพวกตัวเองที่รู้ชะตากรรมจะตายในตอนจบตอนนี้อะไรทำนองนั้นดูหนังออนไลน์
และการที่มีผู้กำกับมาช่วยทำงานด้วยกันถึง 3 คน เกือบจะทำให้เนื้อหนังทั้งเรื่องไปด้วยกันไม่ได้เสียแล้ว เพราะจะสังเกตได้ว่าโทนหนังเดี๋ยวก็กระโดดไปมาอยู่บางจังหวะ แม้ว่าจะยังเล่าเรื่องได้สนุกและทำให้ผู้ชมคล้อยตามไปได้ แต่เดี๋ยวอยู่ ๆ อยู่กลางทะเลทราย อยู่ ๆ เด้งมาฝึกกังฟูเฟะฟะเพลินใจ ซ้ำร้ายยังได้ทั้ง “มิเชล โหย่ว” หรือ “ทาราจิ พี. เฮนสัน” มาเป็นตัวละครใหม่ แต่หนังกลับไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรสักเท่าไหร่เลย
แต่โดยหนังก็เท่านั้นแหละ ต่อให้หนังจะจำเจและไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ใด ๆ เลย หนังชุดนี้ก็ยังขายได้เพราะความเป็นมินเนียนส์ สุดท้ายมันก็เป็นหนังที่มอบความบันเทิงให้คนดูได้ถึงใจถึงอารมณ์อยู่ดี ถึงมันจะสัมผัสได้ถึงความตันในไอเดียของหนังชุดนี้บ้างแล้วก็ตาม ทั้งที่ยังมีทางอื่นอีกมากมายให้เลือกเดินเกมและเล่าเรื่องไป และนั่นอาจจะเป็นจุดที่พลอยทำให้เสน่ห์ของมินเนียนส์ต้องเสื่อมลงไปด้วยหรือเปล่า หากจะมีภาคใหม่ตามมาอีก…เห็นทีว่าสตูดิโอหนังจะต้องคิดคอนเซ็ปต์ให้ฉีกแนวหนัก ๆ เสียแล้ว
รีวิว ความรู้สึกหลังดูจบ 10 / 10
นอกจากสนุก ยังแฝงด้วยแง่คิดหลายอย่าง อนาคตของลูก อยู่ที่การเลี้ยงดูของพ่อแม่ ว่าพวกเขาจะเติบโตไปเป็นอะไร เหมือนที่กรู ตอนโต เราเห็นเขา สันโดษ ปิดกั้นตัวเอง อยากเป็นวายร้าย ก่อนที่เขาจะขโมยดวงจันทร์ กลายเป็นวายร้ายที่แสบร้ายที่สุดของโลก
และรับอุปการะเด็กหญิงน่ารักสามคน (เป็นวายร้าย ที่เป็นที่รักของพวกเรา) วัยเด็ก เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ที่รักสนุก ชอบแกล้ง ต้องการการยอมรับ เพราะคือสิ่งที่ เขาไม่เคยได้รับเลยจากผู้เป็นแม่เลย
เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ เด็กดูฟิน ผู้ใหญ่ดูก็อิน
แต่อย่างที่บอกว่า หนังจะสนุกหรือไม่สนุก ขึ้นอยู่กับ Taste ของแต่ละคน ไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้
ทุกโรงภาพยนตร์ในเครือ Major Cineplex
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Minions 2: The Rise of Gru
ประเภท: แอนิเมชั่น / ตลก / ผจญภัย
ผู้กำกับ: ไคล์ บัลดา, แบรด อเบลสัน, โจนาธาน เดล วัล
ให้เสียงพากย์โดย: สตีฟ คาร์เรลล์, ทาราจิ พี. เฮนสัน, มิเชล โหย่ว
ความยาว: 87 นาที
กำหนดฉายในไทย: 29 มิถุนายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)