รีวิว Antebellum

รีวิว Antebellum

รีวิว Antebellum

รีวิว Antebellum เรื่องย่อ

เวโรนิก้า เฮนลีย์ นักเขียนระดับเบสต์เซลเลอร์ ที่ถูกโชคชะตานำพาให้เธอเข้าไปติดอยู่ในโลกความเป็นจริงในอดีตไกลโพ้นสุดน่ากลัว และต้องไขปริศนาหาคำตอบของเรื่องราวสุดหลอนครั้งนี้ไปให้ได้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายจนไม่สามารถแก้ไขได้ตลอดกาลดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว Antebellum

ผลงานที่ชูหน้าด้วยทีมสร้างจาก Get Out และ Us ของผู้กำกับ จอร์แดน พีล ซึ่งเด่นในเรื่องสไตล์ความหลอนแบบดราม่าจิตวิทยาผสมความสยองแบบหนาวสันหลังด้วยเรื่องราวเหนือจินตนาการ ซึ่งมักดึงความกลัวในใจคนออกมาโดยเฉพาะจากกลุ่มของชาวแอฟริกันอเมริกันที่ถูกความเหลื่อมล้ำทางสีผิวในอเมริกาเล่นงานมาเป็นร้อย ๆ ปีจนถึงปัจจุบันกับกระแส Black Lives Matter ซึ่ง Antebellum ก็ใช้ไอเดียการดึงความกลัวในใจคนผิวดำไม่ว่าจะกี่ยุคต่อกี่ยุคมาใช้ได้อย่างเข้มข้นทีเดียวรีวิวหนังใหม่

ทั้งนี้เป็นฝีมือการกำกับและจินตนาการจากคู่หูผู้กำกับมือใหม่นามว่า เจอราร์ด บุช และ คริสโตเฟอร์ เรนซ์ ที่ผ่านงานสารคดี โฆษณาและวิดีโอสั้นมาหลายชิ้นก่อนได้รับความไว้วางใจทำหนังใหญ่เรื่องแรกนี้ แต่ทีมสนับสนุนเองก็แข็งแกร่งพอให้สองผู้กำกับบรรเลงฝีแปรงได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น เปโดร ลัค ผู้กำกับภาพจากหนัง Don’t Breathe (2016) และ The Girl in the Spider’s Web (2018) มาใช้ประสบการณ์ภาพหลอนยะเยือกที่เปิดมาด้วยลองเทคโชว์ความเก่าได้น่าสนใจทีเดียว และการปล่อยให้ผู้กำกับได้ปล่อยของเต็มที่เพราะไม่ต้องห่วงทีมหนุนก้ทำให้หนังเรื่องนี้มีของเด็ดของดีให้ตรึงใจได้ไม่น้อยเลย

รีวิว Antebellum

พอมาถึงตรงนี้สำหรับคนที่เคยดูตัวอย่างหนังมาแล้ว เมื่อเข้าไปดูก็คงจะแปลกใจตั้งแต่การที่หนังเปิดเรื่องมาในยุคอดีตที่นางเอกถูกจับตัวมาจากที่ไหนสักที่นึง หนังค่อย ๆ เฉลยว่าเธอชื่อ Eden ไม่ใช่ Veronica เธอถูกจับกลับมาหลังจากพยายามหนีจากที่แห่งนี้ เพื่อนที่ร่วมหนีกับเธอถูกลงโทษถึงตาย ส่วนเธอนั้นยังรอดอยู่เพราะเป็นคนโปรดของผู้นำกองพันทหารที่ดูแลพื้นที่นี้ แต่เธอก็ถูกทารุณอย่างหนักเป็นการลงโทษ หนังค่อย ๆ เล่าองก์แรกให้เห็นถึงความหดหู่ของคนผิวดำที่ถูกจับมาใหม่ ทหารผิวขาวที่ปฏิบัติกับทาสผิวดำอย่างกับสัตว์เดรัจฉาน ระหว่างที่ทาสทำงานกันอยู่ก็ปรากฏเสียงดังหึ่ง ๆ อย่างประหลาดขึ้นเป็นระยะ ซึ่งหนังจะไปเฉลยตอนองก์ 3 ว่าคือเสียงอะไร

รีวิว Antebellum

ก่อนที่หนังจะตัดฉับเข้าองก์ 2 ของเรื่อง กลับมาที่ยุคปัจจุบัน เราได้เห็นนางเอกในชื่อ Veronica เหมือนในตัวอย่าง ใช้ชีวิตอย่างหรูหราอยู่ในเมืองใหญ่กับครอบครัว บนฝาผนังมีรูปของ Eden ซึ่งเป็นผู้หญิงผิวดำทำงานเป็นทาสในอดีตและเธอก็ศึกษาเรื่องราวของทาสมาเป็นอย่างดี เพื่อใช้เขียนหนังสือและทำงานเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจเรื่อสิทธิสตรี เธอจำเป็นต้องเดินทางไปยังอีกเมืองหนึ่งเพื่อพูดในงานอีกงาน

ระหว่างนั้นเธอถูกรังควานจากผู้หญิงลึกลับที่เธอไม่รู้จัก แต่คนดูได้เห็นมาแล้วว่า เป็นนายทาสหญิงสุดโหดจากองก์ 1 ทำให้พาลคิดไปได้ว่า ผู้หญิงคนนี้อาจจะตามล้างตามเช็ดมาถึงภพชาติใหม่ เมื่อ Veronica เดินทางไปถึงโรงแรมที่จะต้องขึ้นเวทีพูด หนังก็เริ่มใส่องค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งภาพบ้านเก่าซึ่งเหมือนกับบ้านที่ Eden ถูกใช้แรงงานทาส เริ่มมีเด็กสาวหน้าขาวเหมือนผีปรากฏตัวที่โถงห้องพักของโรงแรม มีคนส่งแจกันดอกไม้ประหลาดด้วยข้อความว่า “ขอต้อนรับกลับมา, X” ให้กับเธอ

รีวิวAntebellum

จนกระทั่ง Veronica ออกไปแฮงเอาท์กับเพื่อนและถูกจับตัวไป มาถึงตรงนี้หนังก็เผยให้เห็นสาวลึกลับที่เป็นนายทาสรวมถึงชายที่เป็นทหารคุมทาสปรากฏตัวขึ้นให้เป็นคนจับตัวเธอ ในตอนนั้นกับคนดูที่เพิ่งจะดูหนังอย่าง Tenet มาก็อาจจะคิดว่า จริง ๆ แล้วสองคนนี้คือคนในอนาคตที่ไล่จับคนส่งกลับไปในอดีต (เหมือนหนัง Looper (2012)) หรือเจ้าสองคนนี้ตามมาล้างแค้นจากชาติก่อนหรือไร จนกระทั่ง Veronica กลับไปปรากฏตัวอีกครั้งในองก์ 3 ซึ่งไปต่อกับฉากจบขององก์ 1 จุดหักมุมของหนังก็เริ่มขึ้น

รีวิวAntebellum

เมื่อทหารใหญ่ผู้นำกองพันซึ่งหลับนอนกับ Veronica อยู่ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์มือถือที่แขวนไว้ในถุงกับม้าที่เทียมไว้นอกชาน (ตอนนั้นยังคิดว่า หนังเรื่องนี้เล่นแบบที่ให้ตัวละครที่ข้ามเวลาเอามือถือย้อนกลับมา แล้วยังใช้ได้แบบนี้เลยเหรอ) ทหารใหญ่รับโทรศัพท์และบอกว่า ตัวเองเป็นวุฒิสมาชิกและจับตัว Veronica มาเพราะเธอเป็นพวกผิวดำที่ลุกขึ้นมาทำตัวเด่นดังและต่อต้านคนผิวขาว หนังยังซ้ำด้วยการเฉลยถึงการอยู่ในยุคปัจจุบัน ด้วยเสียงหึ่ง ๆ ที่คนงานในไร่ได้ยินในตอนแรก็คือ “เสียงเครื่องบิน” ก่อนจะตัดภาพมาที่เครื่องบินบนท้องฟ้า (ซึ่งก็สะท้อนใจว่า จะมีใครเห็นและมาช่วยพวกเขาที่โดนจับมาด้านล่างนี้ไหม?)

 

ต่อมาหนังจึงค่อย ๆ เฉลยว่า สิ่งที่ตัวอย่างหนังและเรื่องสององค์แรก “แกง” (หมายถึงหลอก) มาตลอดว่า หนังเป็นเรื่องราวของการย้อนยุคของตัวละคร หรือการระลึกชาติ ทำนองละครไทย “ทวิภพ” “บ่วงบรรจถรณ์” “บุพเพสันนิวาส” นั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่! เพราะ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่นางเอกและคนผิวดำอีกหลายคน ถูกจับมาขังไว้ในหมู่บ้านจำลองยุคสงครามกลางเมืองที่ชื่อ “Antebellum”

รีวิวAntebellum

ส่วนสิ่งที่เป็นจริงคือ เจ้าพวกคนโรคจิตร่วม ๆ ร้อยคนนี้ ได้สวมบทเป็นทหารและนายทาสที่เกลียดชังคนผิวดำจริงถึงขั้นฆ่าแกงกันจริง ๆ หนังอธิบายว่า คนผิวดำเหล่านี้มีทั้งระดับศาสตราจารย์ ทำนองเดียวกับพวกที่ถูกจับไปค้ามนุษย์หรือให้ไปขายบริการ หลังจากนั้นหนังก็เล่าถึงการหนีเอาตัวรอดของ Veronica ที่ชิงโทรศัพท์ของทหารใหญ่มาได้ และโทรหาตำรวจ 911 และส่งพิกัด GPS ให้กับสามี แม้ว่าจะต้องหาสัญญาณในพื้นที่อับสัญญาณก็ตาม

เมื่อชม Antebellum ก็อดที่จะนึกถึงหนังเรื่องนั้นไม่ได้ เพราะหนังใช้แนวคิดการหักมุมเดียวกัน นั่นคือ การหลอกให้คนดูเข้าใจว่า ชุมชนลึกลับนั้นอยู่ในยุคโบราณ แต่แท้จริงแล้วนั้นก็อยู่ในยุคปัจจุบันเพียงแต่คนในเรื่องกลุ่มหนึ่ง พาตัวเองและลูกหลานไปหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ หวังว่าจะรอดพ้นจากสังคมภายนอกไปอยู่ในสังคมปิด ก่อนที่จะมีคนได้รับบาดเจ็บและส่งนางเอกตาบอดออกไปถึงถนนของอุทยาน (หมู่บ้านซ่อนตัวอยู่ในอุทยานห่างไกล) และขอยามารักษาคนบาดเจ็บจนได้

รีวิวAntebellum

สองผู้กำกับอย่าง Gerard Bush และ Christopher Renz เล่าว่า เขามีหนังอย่าง Requiem for a Nan (1975) หนังที่ออกฉายทางทีวีของ William Faulkner ที่เขาเขียนเป็นนิยายมาก่อนมาใช้เป็นแรงบันดาลใจ รวมถึงสองผู้กำกับก็อยากให้หนังเป็น Gone with the Wind (1939) ฉบับสยองขวัญ พวกเขาจึงใช้กล้อง Panavision ซึ่งเป็นกล้องที่ใช้เลนส์ซึ่งผลิตออกมาก่อนปี 1940 ในการถ่ายทำ

รีวิวหนัง ‘หลอน ย้อน โลก’

หนังของคนผิวสีมักจะวนเวียนอยู่แนวความคิดของการถูกเหยียดจากคนผิวขาวอยู่ตลอดมา การค้นพบและตั้งรกรากของคนบนฝั่งแผ่นดินอเมริกา คนผิวดำกลายเป็นชนชั้นต่ำและตกเป็นเบี้ยล่างของคนผิวขาวตลอดมา แม้กระทั่งปัจจุบันที่การเหยียดผิวนั้นเจือจางลงไปบ้างแล้วแต่มันก็ยังฝังรากอยู่ และ Antebellum ก็กำลังขุดมันออกมานำเสนอให้ผู้คนได้เห็นและตระหนักถึงมัน

รีวิวAntebellum

ยิ่งเมื่อเธอเข้าไปอยู่ในโลกที่คนผิวดำยังคงเป็นทาสรับใช้ในบ้านของผิวขาว มีบ้านแยกออกไปเฉพาะสำหรับทาส ถูกกดขี่ ทำร้ายทารุณต่างๆ นานา เธอจึงได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าคนผิวดำเคยถูกกระทำมามากมายและรุนแรงเพียงใด เธอจึงได้เห็นว่า ในปัจจุบันที่ใครบอกว่ามันเจือจางมากแล้ว แท้จริงมันก็ยังคงอยู่

น่าสนใจที่เขาเลือกหาพล็อตที่เล่าเรื่องที่คุ้นเคยมาเล่าใหม่ในมุมมองและวิธีการที่แตกต่าง นำเรื่องการเหยียดผิว การกดขี่ทางชนชาติ มาเล่าโดยเพิ่มสีสันของช่วงเวลา

เมื่อหนังเล่าให้โลกปัจจุบันกับโลกอดีตที่เธอเข้าไปสัมผัสมีความเหมือนกันในบางอย่างราวกับเป็นกระจกที่สะท้อนซึ่งกันและกัน เราจะได้เห็นว่า ทั้งสองช่วงเวลานั้น มีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่มีความคล้ายคลึงกันอยู่ ต่างแค่บริบทของสังคมและเวลา แต่ทั้งคู่ล้วนเป็นเรื่องราวของความไม่เท่าเทียมที่ยังคงมีอยู่แม้เวลาจะแตกต่างกันมากแล้วก็ตาม นั่นแปลว่า การกดขี่ ความไม่เท่าเทียม การเหยียดสีผิว มันยังคงอยู่ไม่ได้ไปไหน

สิ่งที่เธอคิด เธอเขียน ลงในหนังสือ ถ้อยคำที่พูด ที่เธอบรรยาย มันลอยไปถึงหลายหูในตระหนัก หากอีกหลายหูก็ยังคงทำในสิ่งเดียวกันแค่แตกต่างออกไปก็เท่านั้น

สามสิบนาทีแรกอาจจะเนิบนาบเชื่องช้า เล่าไปแล้วคนดูก็อาจจะสงสัยว่าไหนกันความหวือหวาที่เฝ้ารอ หนังให้เวลาช่วงนั้นเพื่อทดสอบการอดทนรอคอยของผู้คน เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อหนังเข้าสู่องก์ที่สองและองก์ที่สาม  เราจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความอึ้ง!

รีวิวAntebellum

ความน่าสนใจก็คือ หนังอาจจะใบ้มาตลอดทาง แต่เราไม่รู้ไง องก์แรกที่ผ่านไปก็อาจจะสงสัยว่าแล้วเรื่องราวมันจะทำให้เราสนุกได้เหรอ หลังจากผ่านองก์นั้นไปแล้วเราก็ได้รู้ว่า ยังมีเรื่องราวให้ชวนติดตามอยู่ในองก์ที่เหลือ ที่จะทำให้ได้อึ้งและเหวอ เพราะไม่ทันคาดคิดนี่แหละ

 

ภาพยนตร์เรื่อง: Antebellum / แอนเทเบลลัม หลอน ย้อน โลก

ผู้กำกับภาพยนตร์: Gerard Bush, Christopher Renz

ผู้เขียนบท: Gerard Bush, Christopher Renz

นักแสดงนำ: Janelle Monáe/จาแนลล์ โมเน่, Eric Lange, Jena Malone/เจน่า มาโลน, Tongayi Chirisa, Kiersey Clemons/เคลย์ซี คลีมอนส์

ดนตรีประกอบ:  ความยาว: 105  นาที  ปี: 2020

แนว/ประเภท: Horror, Thriller

อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1

ประเทศ: สหรัฐอเมริกา

เรท: ไทย/-, MPAA/R

วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 17 กันยายน 2020

สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย:  Lionsgate, QC Entertainment

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *