รีวิว ELVIS 2022

รีวิว ELVIS 2022

รีวิว ELVIS 2022

รีวิว ELVIS 2022 ที่มา

คือภาพยนตร์ชีวประวัติของ Elvis Presley ( เอลวิส เพรสลีย์) ศิลปินระดับตำนานผู้ได้ชื่อว่าเป็น ‘ราชาร็อกแอนด์โรล’ โดยฝีมือการกำกับของ Baz Luhrmann จาก The Great Gatsby (2013) พร้อมได้สองนักแสดงมากฝีมืออย่าง Austin Butler จาก Once Upon a Time… In Hollywood ( 2019 ) และ Tom Hanks จาก Forrest Gump (1994) มารับบทนำ

รีวิว ELVIS 2022

 

ภาพยนตร์จะพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของ Elvis Presley (Austin Butler) กันตั้งแต่วัยเด็กจวบจนช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของเขา ควบคู่ไปกับความสัมพันธ์อันซับซ่อนระหว่างเขาและผู้พัน Tom Parker (Tom Hanks) ผู้จัดการส่วนตัวที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีของ Elvis Presley ควบคู่ไปกับการกอบโกยเม็ดเงินและผลประโยชน์จาก Elvis Presley ไปพร้อมกันดูหนัง,
สิ่งที่เรารู้สึกแปลกใจหลังจากได้ชม Elvis คือการที่ผู้กำกับ Baz Luhrmann เลือกจะเล่าเรื่องราวของ Elvis Presley ผ่านมุมมองของผู้พัน Tom แทนตัวเจ้าของชื่อเรื่อง อีกทั้งภายในตัวอย่างที่ถูกปล่อยออกมา เรายังได้ยินประโยคที่ผู้พัน Tom บรรยายไว้ด้วยว่า ‘มีบางคนที่ปั้นแต่งให้ผมเป็นตัวร้ายในเรื่องนี้’ กล่าวคือ หากเปรียบเทียบให้ Elvis Presley เป็นพระเอก และมีผู้พัน Tom เป็นตัวร้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังเล่าเรื่องราวของพระเอกในมุมมองของตัวร้ายอยู่นั่นเอง เราจึงค่อนข้างสนใจมากๆ ว่า Baz Luhrmann จะนำเสนอเรื่องราวดังกล่าวออกมาด้วยท่าทีแบบไหนดูหนังออนไลน์

รีวิว ELVIS 2022

ด้วยวิสัยทัศน์ของ บาซ เลอห์มานน์ ขอให้ไว้ใจได้เลย เมื่อเขาต้องมาหยิบจับทำหนังที่องค์ประกอบของเพลงเข้ามาร่วมด้วย แม้ว่าเขาจะยังไม่เคยทำหนังชีวประวัติเรื่องไหนมาก่อนก็ตาม แต่ได้มีโอกาสมาหยิบคว้าเรื่องราวของราชาเพลง เอลวิส เพรสลีย์ เลยในครั้งนี้ แน่นอนว่าน่าจะต้องเครียดและวางแผนงานสเกลที่ยิ่งใหญ่ไม่เบา และทุก ๆ อณูที่หนังถ่ายทอดออกมานั้น ก็สัมผัสได้ถึงความละเอียดในองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาในหนังที่มีความยาว 2 ชั่วโมงกว่า ๆ เรื่องนี้

รีวิว ELVIS 2022

องค์ประกอบฉาก, องค์ประกอบศิลป์, ดีไซน์บทเพลง หรือจะงานตัดต่อ ล้วนแต่เป็นองค์ที่ไว้วางใจ บาซ เลอห์มานน์ ผู้นี้ได้ และเรื่องนี้เขาก็ยังคงไว้ด้วยสไตล์และลายเส้นเฉพาะตัวของเขาเองเอาไว้ได้ทุกอณูของหนัง ความจัดจ้านในการตัดต่อและเล่าเรื่องยังบ่งบอกในความเป็นเลอห์มานน์โดยแท้ และความลื่นไหลต่าง ๆ แสดงออกให้เห็นถึงแนวทางที่ถนัดของแต่ละคน เมื่อหนังมาอยู่ในมือของคนที่คู่ควร มันก็จะแจ่มวาวอะไรประมาณนี้ ดูหนัง,

รีวิวELVIS 2022

แม้ว่า บาซ เลอห์มานน์ จะสามารถทำให้ Elvis ออกมาให้รสชาติจัดจ้านและอิ่มเอมดีตามมาตรฐานแล้ว แต่ถ้าหากเป็นในความคิดเห็นส่วนตัวนั้น กลับรู้สึกค่อนข้างเอียนกับเทคนิคและลูกเล่นเดิม ๆ ของนักสร้างหนังผู้นี้อย่างน่าประหลาดใจ กลายเป็นว่าเมื่อมาดูองก์โดยรวมแล้ว กลับรู้สึกว่า Elvis มีความเลี่ยนในลายเส้นเก่า ๆ ของเลอห์แมนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงมันจะเป็นองค์ประกอบฉูดฉาดที่เร้าใจและน่าตื่นตา ไม่รู้ทำไมเช่นกันที่มีอีกความรู้สึกว่า ไม่มีอะไรใหม่จากผู้กำกับผู้นี้ออกมาในหนังเรื่องนี้เลย (พูดจากใจในฐานะแฟนคลับตัวยง)ดูหนังออนไลน์

ทางด้านการแสดงของหนังเรื่องนี้บ้าง กล้าพูดได้เล่นว่า ‘เริ่ด’ ถึงตัวหนังจะโฟกัสและเน้นความสำคัญหลัก ๆ แค่เพียง 2 ตัวละครของ “ออสติน บัตเลอร์” กับ “ทอม แฮงก์ส” แต่การผนึกกำลังของทั้งสองคนนี้ก็ช่วยประคับประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ ออสติน บัตเลอร์ ที่มอบการแสดงที่ค่อนข้างน่าประทับใจอยู่ไม่น้อย อาจจะเพราะการแปลงโฉมให้คล้ายกับตัวจริงด้วยส่วนหนึ่ง แต่อินเนอร์ต่าง ๆ ของเขาก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกคล้ายตามและเชื่อไปอย่างหมดใจแล้วว่า เขาคือเอลวิส

รีวิวELVIS 2022

การดีไซน์การแสดง ไม่ว่าจะเป็นท่าทางและน้ำเสียงการพูดต่าง ๆ เจ้าหนุ่มออสตินถือว่าทำการบ้านมาดี เขาอาจจะไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ เพราะจริง ๆ เขาก็สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่เด็ก ๆ ผ่านงานแสดงมาก็พอประมาณ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขาถูกเลือกให้มาเป็นนักแสดงนำที่โดดเด่นที่สุด และเขาก็สามารถแบกรับหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง และไม่อาจจะทำให้ผู้ชมละสายไปได้เลย เพราะการเหลาคมความหล่อแบบเดียวกับต้นฉบับ เอลวิส เพรสลีย์ มาเอง

ในขณะที่ ทอม แฮงก์ส คนนี้ไม่ต้องเปล่งวาจาอะไรเยอะ นี่อาจจะเป็นงานแสดงระดับง่ายแบบปอกกล้วยเข้าปากเขาเท่านั้น เพราะเราก็เคยเห็นอะไรแบบนี้จากเขามาก่อนแล้ว แต่เขาสามารถดีไซน์การแสดงออกมาให้รู้สึกไม่จำเจกับบทที่ตัวเองเคยเล่นมาแล้ว ผนวกกับการแปลงโฉมทั้งตัว เพื่อให้เข้ากับบทบาท จึงเป็นอีกตัวละคนหนึ่งที่ผู้ชมจะรู้สึกเข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างทาง แม้ว่าความซับซ้อนและมิติของตัวละครที่หนังถ่ายทอดออกมายังค่อนข้างแบนไปสักหน่อย

ผลลัพธ์คือมันทำให้เรารู้สึกว่ากำลังดู ‘เบื้องหลังของเบื้องหลัง’ เส้นทางดนตรีของ Elvis Presley อีกทีหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ผู้พัน Tom ได้โคจรมาพบกับศิลปินหนุ่มคนนี้ได้อย่างไร เขาพยายามปลุกปั้น Elvis Presley ให้กลายเป็นตำนานด้วยวีธีการแบบไหนบ้าง ฯลฯ ว่าไปแล้ว Elvis ก็ดูเหมือนจะเป็นภาพยนตร์ชีวประวัติที่เล่าเรื่องราวของผู้พัน Tom ควบคู่ไปกับ Elvis Presley ก็คงไม่ผิดเท่าไรนัก
ขณะเดียวกันภาพยนตร์ก็ยังคงทำหน้าที่พาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของ Elvis Presley ในทุกเหตุการณ์สำคัญอย่างครบถ้วนรอบด้านเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลทางดนตรีที่เขาได้รับมาในวัยเด็ก เรื่องราวความรักระหว่างเขาและภรรยา Priscilla Presley (Olivia DeJonge) การเผชิญกับมรสุมชีวิต ไปจนถึงช่วงเวลาก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 1977

ซึ่งหากใครที่เป็นแฟนตัวยงของ Elvis Presley ก็น่าจะทราบเรื่องราวเหล่านี้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งจุดนี้แหละที่ทำให้การตัดสินใจของ Baz Luhrmann ในการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองผู้จัดการอย่างผู้พัน Tom (แถมเป็นตัวร้ายอีกต่างหาก) ทำให้เรื่องราวของ Elvis Presley น่าสนใจและชวนติดตามมากขึ้นหลายเท่าตัว ขณะเดียวกันภาพยนตร์ยังสามารถพาผู้ชมที่ไม่ได้รู้จักหรือติดตาม Elvis Presley มากนัก (เช่นเดียวกับผู้เขียน) ได้ทำความรู้จักกับราชาร็อกแอนด์โรลคนนี้ในทุกแง่มุมไปพร้อมกันอีกด้วย

รีวิวELVIS 2022

ความรู้สึก 

และอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ต้องเอ่ยถึงก็คือ เทนิคการแต่งหน้า-ทำผมและคอสตูมดีไซน์ ที่ถือได้ว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญของ Elvis เลยทีเดียว การแต่งหน้า-ทำผมโดดเด่นมาก โดยเฉพาะการแปลงโฉมให้กับออสตินในการเป็นเอลวิสในแต่ละยุค ที่ค่อน ๆ ใส่รายละเอียดแทรกเขาไปได้อย่างเป็นธรรมชาติอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ เรื่องถึงกับต้องฉุกคิดตามไปว่า นี่หนังหยิบเอาฟุตเทจจริง ๆ มาตัดต่อสลับไปมาด้วยหรือไม่ เพราะเกือบจะแยกไม่ออกแล้ว

รีวิวELVIS 2022

ส่วนองค์ประกอบงานออกแบบเสื้อผ้าของหนังเรื่องนี้ ต้องยกนิ้วให้จริง ๆ เพราะทีมงานสร้างเก็บรายละเอียดแทบจะทุกระเบียบนิ้วในยุคนั้นเอามาใส่ไว้ได้เป๊ะ ๆ ไม่ขัดตา แน่นอนว่าองค์ประกอบนี้ถือว่าเป็นอีกไฮไลต์เด็ดของหนังเลอห์มานน์ใน

ทุก ๆ เรื่อง และ Elvis ก็ถือว่าสอบผ่านในองค์ประกอบงานสร้างหลาย ๆ ด้านที่บรรจงสร้างออกมา

โดยภาพรวมแล้วนั้น Elvis ก็ถือว่าเป็นหนังชีวประวัติตำนานเพลงที่ทำออกมาได้ค่อนข้างกล่อมกลม ช่วงปูเรื่องตอนแรก ๆ เล่าเรื่องได้กระชับติดสปีดทีเดียว แม้ว่าจะมาย้วยนิดหน่อยในช่วงกลาง ๆ แต่ก็สามารถปิดองก์ท้ายของเรื่องได้อย่างทรงพลังกับความดราม่าที่เพิ่มลำดับขึ้นเรื่อย ๆ บทหนังเรื่องนี้อาจจะยังไม่กลมกล่อมมากนัก แต่ก็นับได้ว่าเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ในชีวิตเอลวิส ผนวกเข้ากับเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในช่วงชีวิตเขาเอาไว้ได้ค่อนข้างดีรีวิวหนังใหม่

อย่างไรก็ตาม Elvis ก็มีจุดด้อยที่เราไม่ชอบเป็นการส่วนตัวคือ การนำเสนอในช่วงต้นเรื่องที่เรารู้สึกว่าผู้กำกับและทีมสร้างดูจะเร่งรีบไปสักหน่อย
แม้ว่าภาพยนตร์จะสร้างสรรค์กลวิธีนำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ แต่ด้วยจังหวะการตัดต่อและการบรรยายเรื่องราวที่รวดเร็วเกินไป จึงทำให้เราตามเนื้อหาสำคัญที่ภาพยนตร์กำลังนำเสนอไม่ทันเท่าไร

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *