รีวิว Euphoria

รีวิว Euphoria

รีวิว Euphoria

รีวิว Euphoria ที่มา

Euphoria มี 8 ตอนจบ ดัดแปลงมาจากซีรีส์อิสราเอลชื่อเดียวกันที่ออกฉายในปี 2012 โฟกัสที่ตัวละครวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังดิ้นรนกับปัญหาของตัวเอง Rue (รับบทโดย Zendaya) เด็กสาวที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์โอเวอร์โดสจนเกือบช็อกตายกลับมาเรียนไฮสคูลหลังจากบำบัดอยู่หลายเดือน การกลับมาครั้งนี้ทำให้เธอเจอกับ Jules (รับบทโดย Hunter Schafer) เด็กสาวข้ามเพศที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเมืองนี้ ทั้งคู่ถูกชะตากันจนกลายเป็นเพื่อนสนิทอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่รูไม่รู้คือจูลส์ชอบนัดผู้ชายทางอินเทอร์เน็ตออกไปมีเซ็กซ์เป็นครั้งคราว หนึ่งในนั้นคือพ่อของ Nate (รับบทโดย Jacob Elordi) หนุ่มฮอตของโรงเรียนผู้ชอบใช้ความรุนแรงเพราะมีปมในใจดูหนัง,

รีวิว  Euphoria

ว่ากันตามตรงนั่นก็ไม่ใช่เส้นเรื่องหลักของซีรีส์นัก เพราะเรื่องพาคนดูไปสำรวจตัวละครอื่นๆ ที่เทียบสัดส่วนแล้วก็ไม่น้อยไปกว่ากัน (แบบเดียวกับที่ Skins หรือ ฮอร์โมนส์ฯ เคยทำนั่นล่ะ) และตัวละครเหล่านั้นต่างก็มีประเด็นน่ากลุ้มใจไม่ต่างจากตัวหลัก อย่าง Maddy ( รับบทโดย Alexa Demie ) แฟนของเนต ทั้งที่รู้ว่าแฟนตัวเองเป็นคนรุนแรง ถึงจะถูกทำร้ายแต่ก็เลิกไม่ได้เพราะรัก (love-hate relationship ที่แท้), Kat (รับบทโดย Barbie Ferreira) เพื่อนสาวร่างท้วมของแมดดี้ผู้เคยโดนมองข้ามเพราะรูปร่าง สร้างอำนาจให้ตัวเองด้วยการเป็นดาวโป๊บนอินเทอร์เน็ต, Cassie (รับบทโดย Sydney Sweeney) เชียร์ลีดเดอร์สุดฮอตที่ต้องทนทุกข์จากคลิปหลุดที่ถูกปล่อยโดยบรรดาแฟนเก่า หรือ Chris แฟนคนล่าสุดของแคสซีที่คบสาวฮอตอย่างเธอเพื่อให้ตัวเองรู้สึกเหนือกว่าทุกคนดูหนังออนไลน์

รีวิว  Euphoria

ตัวซีรีส์จะมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวละคร รู เบนเนต (รับบทโดย เซนเดย์อา Zendaya) สาวน้อยวัย 16 ปีที่ชีวิตวังวนอยู่กับยาเสพติด แม้เธอจะเข้าบำบัดอาการติดยาหลังจากเสพยาเกินขนาดจนเกือบตายมาแล้วก็ตาม ชีวิตของรูกลับมาพบเจอกับความสดใสอีกครั้งหลังได้พบกับ จูลส์ วอน (รับบทโดย ฮันเทอร์ เชเฟอร์ Hunter Schafer) สาวน้อยรูปร่างผอมบางที่มีด้านมืดทั้งการพยายามฆ่าตัวตายและความโลเลในด้านความสัมพันธ์จนทำให้ทั้งรูและจูลส์อยู่กับรักเมา ๆ ของพวกเธอ

นอกจากนี้ซีรีส์ยังมีตัวละครสมทบที่มีชีวิตและปมประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันทั้ง เนท เจคอบส์ (รับบทโดย เจคอบ อีลอร์ดี Jacob Elordi) หนุ่มหล่อเพอร์เฟกต์ที่มีปมเรื่องพ่อเสพติดเซ็กส์ ที่สำคัญคือ คาล เจคอบส์ (รับบทโดย อีริค เดน Eric Dane) พ่อของเขาดันไปถ่ายคลิปตอนมีเซ็กส์กับจูลส์ไว้เสียด้วย หรือกระทั่งแมดดี เปเรซ (รับบทโดย อเล็กซา เดมี Alexa Demie) แฟนสาวของเนทที่พยายามยื้อให้เขาอยู่กับเธอดูหนัง,

รีวิว  Euphoria
ส่วนตัวละครที่ถือว่าทุ่มเทและนักแสดงเปลืองตัวที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น แคสซี โฮเวิร์ด หญิงสาวคลั่งรักและเสพติดเซ็กส์อย่างยิ่งซึ่งการได้ ซิดนีย์ สวีนีย์ (Sydney Sweeney) นักแสดงสาวหุ่นทรมานใจชายมารับบทนี้นอกจากจะทำให้หนุ่ม ๆ กระชุ่มกระชวยเพราะเธอขยันถอดขยันนัวร์กับผู้ชายแล้ว พอถึงจุดที่ซีรีส์โบยตีตัวละครแคสซี คนดูก็อดสงสารไม่ได้และถือว่าซีรีส์น่าจะใจร้ายกับตัวละครของเธอไม่ต่างจาก รู เลยด้วยซ้ำ

แต่นอกจากเรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ เซ็กส์สยิวและเก็ตไฮกับยาเสพติดจนดูแล้วอดเมาตามตัวละครไม่ได้แล้ว ‘Euphoria’ ยังพาเราไปเปิดโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและเจาะลึกปัญหาชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลแบบแทบจะพามุดลงท่อไปด้วยซ้ำโดยเฉพาะทัศนคติของตัวละครหลายตัวที่น่าสนใจไม่น้อยโดยเฉพาะ แคท เฮอร์นานเดซ ที่ได้นักแสดงสาวสวยพลัสไซส์อย่าง บาร์บี เฟอร์เรียรา (Barbie Ferreira) มาให้การแสดงอันทรงพลังเพราะแม้จะถูกตราหน้าว่าเป็นสาวร่างใหญ่แต่ด้วยแอดติจูดความมั่นของแคทที่สามารถทำให้หนุ่ม ๆ คลั่งเธอได้ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ก็ทำให้ประโยค “ Nothing powerful than a fat girl who don’t give a fxxx ” ส่งให้แคทเป็นตัวละครที่คนดูจะรักได้ไม่ยาก
และเมื่อพิจารณาภาพรวมของซีรีส์ก็คงต้องชื่นชมปนอยากก่นด่าเพราะมีข่าวลือว่า แซม เลวินสัน (Sam Levinson) ที่เล่นบทโหดทั้งการถ่ายเกินเวลาบางคิวลากยาวไปถึง 18 ชั่วโมงทั้งที่ไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมงจนมีคนร้องเรียนไปยังสมาพันธ์นักแสดงอย่างแซ็ก แอฟทรา (SAG-AFTRA) หรือทีมงานที่กล่าวหาว่า เลวินสันไม่เคยให้ช็อตลิสต์ (Shot List) หรือตารางที่กำหนดว่าจะถ่ายช็อตไหนก่อนหลังแต่เน้นดูสถานการณ์ตอนนั้นแล้วถ่ายสิ่งที่อยากถ่ายแบบตามใจฉันจนทีมงานต้องทำงานลากยาวแทบไม่ได้พักผ่อนดูหนังออนไลน์

หรือจะเป็นเหตุการณ์อื้อฉาวที่สุดคือข่าวลือการวอล์กเอาต์ของนักแสดงสาวอย่าง บาร์บี เฟอร์เรียรา (Barbie Ferreira) ที่รับบทแคทจนทำให้แอร์ไทม์ของเธอในซีซัน 2 น้อยกว่าซีซันแรกอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนถึงแซ็ก แอฟทราอีกว่ากองถ่าย ‘Euphoria’ ไม่ได้จัดพื้นที่สำหรับเอ็กซ์ตราที่เหมาะสมทั้งการให้รอถ่ายภายใต้อากาศร้อน ๆ ตอนกลางคืนหรือการที่มื้ออาหารไม่ได้ถูกเสริฟทุก 6 ชั่วโมงซึ่งทางหน่วยงานจะมีการปรับจากกองถ่ายโดยคิดจากสมาชิกของสมาพันธ์หัวละ 50 ดอลลาร์และปรับเพิ่มในทุก ๆ ครี่งชั่วโมงอีกด้วย

Euphoria

เมื่อพิจารณาจากงานเชิงประจักษ์ก็พบว่านอกจากบทของ ‘Euphoria’ ที่เขียนได้อย่างรัดกุมและรอบด้านในการนำเสนอชีวิตดาร์ก ๆ ของวัยรุ่นแล้ว มันยังเต็มไปด้วยความครีเอทีฟในการการนำเสนอนอกจากฉากจินตนาการ ฉากเสพย์ยาเสพติด แล้วในตอนท้ายของทั้ง 2 ซีซันของซีรีส์ยังมีการเล่าเรื่องทั้งแบบมิวสิคัลในตอนฟินาเลของซีซันแรกและการเล่าเรื่องตัดสลับระหว่างละครเวทีของเล็กซี่ ฮาวเวิร์ด (รับบทโดย มอว์ด อพาโทว Maude Apatow) กับเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ทำให้ซีรีส์วัยรุ่นเรื่องนี้มีงานภาพที่ไม่ธรรมดาเลย

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการเลือกเพลงประกอบซีรีส์แต่ละตอนที่ยอมรับเลยว่าทีมสร้างเลือกเพลงดัง ๆ มาประกอบได้เหมาะเจาะและเข้าสถานการณ์จนน่าจะทำให้ลิสต์เพลงของ ‘Euphoria’ กลายเป็นลิสต์เพลงโปรดสำหรับคอซีรีส์ที่ดูจบได้ไม่ยากรวมถึงการแสดงของเซนเดย์อาที่ต้องบอกว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ความสวยเก๋ หรือแค่เป็นนางเอก ‘Spider-Man’ เท่านั้น หลายซีนเธอทำเอาคนดูเสียน้ำตาได้อย่างเกินต้านจริง ๆ

แต่ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่า ‘Euphoria’ เป็นซีรีส์ที่เหมาะกับผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 20 ปีเท่านั้นนะครับ เพราะมีฉากที่เห็นอวัยวะเพศชายแบบชัดเจนหลายช็อตรวมถึงฉากเซ็กส์ร้อนแรงและการเสพยาเสพติด รวมไปถึงพฤติกรรมหมิ่นเหม่หลายอย่างที่เยาวชนอาจเลียนแบบได้แต่จะให้ดีมาก ๆ เลยส่วนตัวผมคิดว่านี่น่าจะเป็นซีรีส์ที่พ่อแม่ควรดูเป็นอย่างยิ่งและจะให้ดีควรดูร่วมกับลูก ๆ โดยเฉพาะลูกสาวนี่แหละครับ เพราะต้องยอมรับว่าซีรีส์ได้ชำแหละชีวิตวัยรุ่นแบบรอบด้านได้ทั้งน่ากลัวและเปี่ยมสีสันจริง ๆรีวิวหนังใหม่

ไฮสคูลไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป

Euphoria
เรื่องความโจ่งแจ้งอาจเป็นที่ถกเถียง แต่สิ่งที่เรามั่นใจว่าหลายคนน่าจะเห็นตรงกันแน่ๆ คือความโดดเด่นของงานไลท์ติ้ง งานตัดต่อ และงานถ่ายภาพ เดาจากหนังเรื่องก่อนหน้าของผู้สร้าง Sam Levinson อย่าง Assassination Nation เราก็คาดหวังเรื่องวิชวลจัดจ้าน แล้วซีรีส์เรื่องนี้ก็ทำได้เกินความหวังของเราซะอีก ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยซีนงามๆ บางซีนงามจนแทบลืมหายใจ และที่ชอบเป็นพิเศษคือการเสริมมู้ดของซีรีส์ด้วยการเคลื่อนกล้องที่สวิงไม่แพ้อารมณ์ตัวละคร.

ที่เปี่ยมเสน่ห์ไม่แพ้กันคือการแสดงของนักแสดงทุกคน โดยเฉพาะ Zendaya ที่แทบจะพูดได้ว่าแบกซีรีส์ทั้งเรื่อง เธอสามารถลบภาพนางเอกสุดเนิร์ดจาก Spider-Man: Homecoming ได้อย่างหมดจดงดงาม กลายเป็นสาวขี้ยาอมทุกข์ที่น่าเอาใจช่วย เช่นเดียวกับเจคอบที่ลบภาพหนุ่มหล่อจาก The Kissing Booth ไปเป็นหนุ่มเก็บกดนิสัยร้ายกาจจนแทบจะทำใจรักไม่ลง

มานึกดูดีๆ สิ่งที่เราชอบมากที่สุดของซีรีส์เรื่องนี้คงเป็นการเห็นตัวละครดิ้นรนจากปัญหาของตัวเองด้วยวิถีทางที่แตกต่างกัน บางคนเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น บางคนมองหาที่ยึดเหนี่ยว บางคนติดอยู่ในวังวนของความฉิบหายนั้นและไม่ได้พยายามหาทางออก ซึ่งล้วนเป็นทางเลือกที่เราไม่อาจตัดสินว่าผิดหรือถูก

Euphoria ทำให้เราเห็นว่าชีวิตวัยรุ่นไม่ได้มีแค่ความสดใส และมันอาจฟังดูใจร้าย แต่ชีวิตจริงไม่ว่าช่วงไหนๆ ก็ไม่ได้เต็มไปด้วยความสดใสอยู่แล้ว

บางเวลาเราเจอกับความยากลำบาก เราแค่ต้องอดทนให้ผ่านมันไป ต้องย้ำเตือนตัวเองว่าเราสามารถผ่านมันไปได้ ตัวละครหนึ่งในเรื่องบอกไว้ว่า ชีวิตไฮสคูลไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป

เช่นเดียวกับช่วงเวลายากลำบากทุกช่วงของชีวิตนั่นแหละ

Euphoria

สิ่งที่น่าสนใจ

-Euphoria คือซีรีส์ 8 ตอนจบ เล่าเรื่องชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลที่ไม่ได้สดใส หากเต็มไปด้วยปัญหาที่ต้องดิ้นรน ทั้งยาเสพติด เซ็กซ์ และความรุนแรงรีวิวหนังมาใหม่
-นี่คือซีรีส์ดราม่าวัยรุ่นเรื่องแรกของช่อง HBO ผลิตโดยค่าย A24 เจ้าของหนังวัยรุ่นชื่อดังหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นคนดูสามารถคาดหวังความแสบสันและวิชวลงามๆ จากเรื่องนี้ได้เลย
-ซีรีส์ยังได้ดาราวัยรุ่นอย่าง Zendaya และ Jacob Elordi มารับบทนำ ความน่าสนใจคือเรื่องนี้ได้รับกระแสต่อต้านอย่างอื้อฉาวจากคนดูบางกลุ่ม พอๆ กับเสียงสนับสนุนว่ามันพูดเรื่องวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียลได้อย่างเข้าใจ ไม่ประนีประนอม
-ล่าสุดซีรีส์ได้รับอนุมัติให้สร้างซีซั่น 2 ต่อแล้ว คนไทยสามารถรับชมซีซั่นแรกได้ทาง HBO GO

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *