รีวิว Hustle

หนังดราม่ากีฬาเล็ก ๆ เรื่องหนึ่งที่ แทบจะไม่ได้อยู่ในสายตา ของผู้ชมคนไทยสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะได้นักแสดงเบอร์ใหญ่มาร่วมแสดงหลายคน นี่คือ ” Hustle ” หนังเรื่องล่าสุดของ ” อดัม แซนเลอร์ ” ที่ยังเอาด๊ในการเล่นหนังดราม่า กินใจ ที่กลับมาในคราวนี้กับหนังแวดวงสายกีฬาที่ออกดูเชยและซ้ำซากไปหน่อย แต่ปรากฏว่าหนังยังทำหน้าที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูได้อย่างไม่น่าเชื่อดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ 

รีวิวหนังใหม่ Hustle เล่าเรื่องราวของ สแตนลีย์ เบเรน อดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอล ที่เคยถูกไล่ออกจากทีม ทำให้เขาผันตัวกลาย มาเป็นแมวมองนักกีฬา เพื่อป้อนเด็กใหม่ ๆ เข้าสู่ทีมที่เขาจงรัก ภักดี เขาต้องใช้ชีวิตแบบ ไม่อยู่กับที่ บินไปมาไปทั่วโลกเพื่อเสาะหา คนที่มีแววที่สุด กระทั่งเขามาสะดุดตา เข้ากับหนุ่มก่อสร้างชาวสเปน โบ ครูซ ระหว่างเห็นลีลา ลงสนามประลองเกมใจ กลางกรุงมาดริด เขาจึงได้ยื่นข้อเสนอ ให้กับหนุ่มผู้นี้ พร้อมกับวางเป้าหมายฝึก ให้เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของ NBA แต่เส้นทางกว่าจะไปถึงจุดนั้น…ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แม้ว่าหน้าหนัง Hustle จะเป็นหนังบาสเก็ตบอล แบบชัดเจนมาแต่ไกล แต่แฟน ๆ บาสเก็ตบอลก็อย่าคาดหวังว่าจะได้ดูฉากแข่งบาสเก็ตบอลมันส์ ๆ ในเรื่องนี้นะครับ พราะนี่คือหนังที่เล่าเรื่องราวของ โบ ครูซ นักบาสข้างถนนผู้มีพรสวรรค์แล้วกลายมาเป็นดาวรุ่งใน NBA ฉากที่เราเห็นบ่อย ๆ ในสนามก็คือ ฉากโชว์ ความสามารถในการชู้ต แย่งบอล หลอกล่อ ปัด ฉากแข่งก็เป็นฉากสั้น ๆ เล่นแบบทีม 3 คน แค่นั้น ไม่มีฉากเชย ๆ แบบว่าตามอยู่ 1 แต้ม แล้วกำลังจะหมดเวลา มีภาพสโลว์โมชัน พระเอกชู้ตลูกไปแล้ว ภาพลูกบาสลอยตรงไปยังห่วงตัดสลับกับภาพตัวเลขนาฬิกากำลังเดินถอยหลังแบบนั้น ฉากแบบนี้ ไม่มีให้เห็น ถ้ามองตามสัดส่วนแล้ว เนื้อหาหนังจะหนักไป ทางดราม่าเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ ของตัวละครหลักอย่างซูการ์แมน และ ครูซ ที่ต่างฝ่าย ต่างไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วอยู่ดี ๆ ต่างก็ต้องฝากอนาคตไว้ซึ่งกัน และ กัน มีทั้งเรื่องราว ที่ทุ่มเทเสียสละให้กัน ซื้อใจกัน มีทั้งเรื่องราว ที่ต่างฝ่ายต่างปิดบังกัน ทำให้ต้องผิดใจกันจนมีปากเสียง

นี่คือผลงานการกำกับหนังยาวอีกครั้งของ “เจอร์ไมห์ ซาการ์” ผู้กำกับที่ถนัดทำหนังสารคดีเป็นหลัก และเมื่อต้องมาหยิบจับสร้างหนังดราม่าที่ผสมผสานเข้ากับแวดวงกีฬา เขาสามารถงัดเอาเทคนิคและความช่ำชองในการสร้างสารคดีของเขาเข้ามาใส่เอาไว้ได้อย่างคล้องจองกันดี แม้ว่าโดยรวมแล้วหนังจะไม่ได้สร้างความแปลกแตกต่างอะไรจากหนังแนวนี้ที่เคยทำกันออกมาแล้วหลายเรื่องก็ตาม

โดยที่ Hustle ก็ยังคงเป็นหนังดราม่า กีฬาที่เดินเรื่องตลอดทาง ด้วยการใช้สูตรสำเร็จ แทบจะเกือบ ทั้งหมด ทั้งองค์ประกอบเล็กน้อย และ โครงเรื่องต่าง ๆ เป็นสิ่งที่คนดู น่าจะคุ้นเคย และ จับทางได้ไม่ยาก แต่หนังก็สามารถสร้างบรรยากาศ และ ใส่แรงกระตุ้นเร่งเร้าในจังหวะ ของหนังออกมาได้ดี มีกลิ่นอายของความเป็นหนังนักกีฬา นักสู้ ในอดีตหยอดใส่เข้ามาเบา ๆ สัมผัสได้ถึงความเป็น Rocky Balboa เวอร์ชั่นบาสเก็ตบอลได้ประมาณนั้นเลย

หนังได้ 2 นักเขียนบทมือดี ” เทย์เลอร์ มาเทอร์น ” ที่มีประสบการณ์ ในการเขียนบท ให้วิดีโอเกม NBA มาก่อน กับ ” วิล เฟตเตอร์ส ” มือเขียนบทที่เคย ได้เข้าชิงออสการ์จาก A Star Is Born มาช่วยกัน ปลุกปั้นเรื่องนี้ และ ทำให้หนังเกือบ 2 ชั่วโมงเรื่องนี้สามารถ เกาะกิน ใจผู้ชมได้อยู่หมัด ถึงแม้ว่าบทจะค่อนข้าง เชย และ ธรรมดาไปสักหน่อย แต่ก็ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ มาช่วยสนับสนุนตัวหนังได้ดี

และแน่นอน ว่าองค์ประกอบ นั้นก็คือการแสดง เพราะนี่ก็ถือว่าอีกหนึ่งการแสดง ที่ค่อนข้างเข้าทาง อดัม แซนเลอร์ ในช่วงยุคหลัง ๆ ที่พยายามซา ๆ เลิกเล่นหนังตลกโปกฮาลงไปบ้าง หันมาหยิบจับหนังดราม่าบ่อยครั้งขึ้น ถึงบทบาท ที่เขาได้รับจะไม่ได้หวือหวา และ ทรงพลังอะไรมากนัก แต่เขาก็รับหน้าที่ แบกรับหนัง ทั้งเรื่อง เอาไว้ได้สบาย ๆ กับการแสดงน้อย แต่มากด้วยสไตล์ของเขาเอง และ บทโค้ช ที่เขาสร้างสรรค์ ตีความออกมานั้น ก็ถือว่าเข้ามือได้ดี

อีกคน ที่ไม่น่าเชื่อว่า จะหันมาเอาดีด้านการแสดงครั้งแรก และ ทำได้น่าสนใจไม่เบาก็คือ ” ฆวน เอร์นันโกเมซ ” นักบาสหนุ่มชาวสเปน ที่อยู่ในทีม Utah Jazz  กับส่วนสูงทะลุ 2 เมตร กลายมาเป็นดาวเด่น และ พระเอกของเรื่อง ด้วยการใช้ทักษะความสามารถ ในแวดวงกีฬาเข้ามาผสมผสาน และ ถือว่าการเล่นหนังเรื่องแรกของเขาก็ค่อนข้างสอบผ่านในหลาย ๆ ข้อเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังเชื่อว่า หากใครที่เป็นแฟนกีฬาบาสเก็ตบอลน่าจะต้องถูกใจ เพราะ Hustle เหมือนเป็นหนังที่สร้างออกมาสดุดีและยกย่องเหล่ายอดตำนานของวงการกีฬาชนิดนี้โดยเฉพาะ เพราะคุณจะได้เห็นทั้งนักแสดงและนักกีฬาตัวจริง โดดเข้ามามีบทบาทสมบทในเรื่องนี้เพียบ ไม่ว่าจะเป็น “โทเบียส แฮร์ริส”, “โบบัน มายาโนวิช”, “แอนโทนี เอ็ดเวิร์ดส์” หรือ “มาติส ธีบูลล์” เป็นต้น

เอาเป็นว่าโดยสรุป แล้ว Hustle ก็ถือว่าเป็นหนังกีฬาฟีลดี ที่มาช่วยเติมไฟ แห่งกำลังใจให้กับทุก ๆ คนในการต่อสู้ และ พยายามต่อทุกอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา แม้ว่าตัวหนังจะค่อนข้างดำเนินเรื่องไปแบบสูตรสำเร็จ กับบทหนังเชย ๆ แต่มันกลายเป็นความเชย ที่ยังทำงานได้ดีต่อผู้ชม สามารถสร้างความบันเทิงให้คนดูทั้งสนามแบบมีประสิทธิผล พร้อมกับองค์ประกอบการแสดงที่ผสมผสานทั้งนักแสดงกับนักกีฬาตัวจริงที่แทบจะแยกไม่ออก นี่คือหนังที่ได้ดั้งค์หัวใจผู้ชมลงห่วง ทำคะแนนได้ไปเต็ม ๆ

เนื้อหาระดมสาดอุปสรรคใส่ตัวละคร ทำให้หนังดูน่าติดตาม

เป็นหนังบาสเก็ตบอล NBA ที่ดูง่ายไม่ลงลึกถึงเรื่องราวจำเพาะวงการมากเกินไป

ได้ครบทั้งสาระ บันเทิง ฟีลกู้ด

ประเภท: ดราม่า / กีฬา

ผู้กำกับ: เจอร์ไมห์ ซาการ์

นำแสดงโดย: อดัม แซนเลอร์, ฆวน เอร์นันโกเมซ

ความยาว: 117 นาที

กำหนดฉายในไทย: 8 มิถุนายน 2022 (ที่ Netflix)