รีวิว Shazam…หนัง DC ที่ดีที่สุดในตอนนี้

รีวิว Shazam...หนัง DC ที่ดีที่สุดในตอนนี้

รีวิว Shazam…หนัง DC ที่ดีที่สุดในตอนนี้

รีวิวหนังใหม่  รีวิวหนัง ชาแซม Shazam มาถึงคิวหนังซุปเปอร์ฮีโร่ของ DC บ้างแล้วคับ และกลับมาพบกับผม และ การรีวิวหนังสุดมัน วันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง เรื่องที่เหลือเชื่อมากอย่างหนึ่งคือชื่อเดิมของ Shazam! ฉบับคอมิกคือ Captain Marvel ก่อนที่สำนักพิมพ์เดิมจะปิดตัวและกว่าดีซีจะไปซื้อลิขสิทธิ์มาได้ก็ถูกปู่สแตน ลี ชิงตัดหน้าทำคอมิก Captain Marvel ไปก่อนจนต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Shazam!

รีวิว Shazam...หนัง DC ที่ดีที่สุดในตอนนี้

อย่างที่เห็น ซึ่งฉบับภาพยนตร์ก็ดันฉายไล่เลี่ยกันเสียด้วยจนเหมือนนัดกันมาแข่งอีกรอบแหนะ ฮ่าาาา และเซอร์ไพรส์อีกต่อที่ ดีซี ไปยืมตัวเดวิด เอฟ แซนด์เบิร์ก ผู้กำกับหนังสยองทั้ง Light Out และ Annabelle Creation มากำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่สายฮาเรื่องนี้ ซึ่งเขาก็พิสูจน์ฝีมือได้ยิ่งกว่าสอบผ่าน

เพราะสามารถเอาหนังฮีโร่โทนเบาสมองที่มีปมครอบครัวเป็นแกนกลางได้อย่างลงตัว ทั้งสนุก ฮาเป็นบ้าเป็นหลัง ที่สำคัญคือปมดราม่ากันครอบครัวทำได้หนักแน่นจนเราอดอมยิ้มไปกับเรื่องราวและปมความสัมพันธ์ในครอบครัวอุปถัมภ์ได้เอ็นจอยไม่แพ้ความมันส์ของศึกพลังเวทย์ในเรื่องเลย ซึ่งก็คงต้องชมทีมเขียนบททั้ง เฮนรี เกย์เดน และ แดเรน แลมเก้ ที่สามารถผสมผสานดราม่าครอบครัวกับหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่เบาสมองได้อย่างกลมกล่อม

รีวิว Shazam...หนัง DC ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ตั้งแต่Man of Steel ในปี 2013 ผ่านมา 6 ปี ค่ายDCได้เข็นหนังซูเปอร์ฮีโร่มาชนกับMarvelแล้วถึง 6 เรื่อง แม้ว่าเส้นทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่DCก็สามารถประคองจักรวาลหนังของตัวเองให้ยืนหยัดอยู่ได้ และหลังจากเข็นฮีโร่ตัวท็อปๆมาขึ้นจอใหญ่กันแล้ว คราวนี้เป็นคิวของซูเปอร์ฮีโร่ตัวใหญ่ใจเด็กอย่างShazam ที่ได้มาออกโรงกับเขาเสียที

Shazam! ว่าด้วยเรื่องของบิลลี่ แบทสัน (Asher Angel) เด็กกำพร้าที่ได้รับเลือกจากพ่อมดชาแซม (Djimon Honsu ให้สืบทอดพลังจากผู้กล้าในตำนานทั้งเจ็ด เพื่อเป็นยอดมนุษย์(Zackary Levi)ที่ปกป้องโลกจากความชั่วร้าย แต่บิลลี่ที่ยังเด็กอยู่จะสามารถรับมือกับภัยร้ายจากDoctor Sivana (Mark Strong) ได้หรือไม่ ต่างจากหนังฮีโร่เรื่องก่อนๆของDCที่มาในโทนอีพิคอลังการงานสร้าง Shazam!กลับเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่สเกลเล็กเบาสมอง ที่ขณะเดียวกันก็มีอารมณ์ดราม่าแทรกอยู่พักๆ  ดูหนังใหม่ได้ที่ หนังฟรี หนังใหม่  ดูหนัง  ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว Shazam…หนัง DC ที่ดีที่สุดในตอนนี้

รีวิว Shazam...หนัง DC ที่ดีที่สุดในตอนนี้

 

เล่าถึงบิลลี่ แบทสัน (Asher Angel) เด็กผู้ชายวัย 14 ที่กำพร้าพ่อแม่และพยายามอาศัยในเมืองใหญ่ให้อยู่รอด จู่ ๆเขาก็ได้รับพรสวรรค์พิเศษจากพ่อมดชราให้สามารถกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ชั่วขณะหนึ่งด้วยการตะโกนว่า ชาแซม! โดยเขาจะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ชั่วขณะที่ชื่อ ชาแซม(Zachary Levi) นั่นเอง แต่ในขณะเดียวกัน แธเดียส(Mark Strong) ชายลึกลับก็กำลังตามหาบิลลี่เพื่อแย่งพลังที่บิลลี่มีมาครอบครอง

 

 

ถ้านึกภาพไม่ออก นี่คือซูเปอร์แมนเวอร์ชั่นฮานั่นเอง เพราะพลังของShazam มีความใกล้เคียงและคล้ายคลึงกับซูเปอร์แมน แต่ใช้Thunder หรือสายฟ้าเป็นพลัง แต่กระนั้นแล้วหนังกลับไม่มีฉากแอ็คชั่นอะไรมากมาย อาจจะเพราะทุนสร้างต่ำที่สุดในกลุ่มฮีโร่ DC เลยนะครับ เพราะShazam เหมือนฮีโร่ชนบทที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชุมชน ไม่ได้ไปบู๊ล้างผลาญช่วยโลกเหมือนพวกซูเปอร์แมนหรือแบทแมน

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้Shazam ไม่ได้เป็นหนังฟอร์มยักษ์ เพราะนี่คือภาคแรกของหนังเรื่องนี้และเป็นช่วงที่ Shazam กำลังฝึกฝนการใช้พลังในขั้นแรก แต่ฉากแอ็คชั่นก็มีนะครับไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย เพียงแต่เป็นการต่อสู้เล็ก ๆ เท่านั้นเอง

หนังเน้นเล่นปมครอบครัวได้อย่างฉลาด เพราะฉากเปิดเรื่องก็เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางครอบครัวทันที แต่เป็นปมของฝั่งตัวร้ายนะครับนั่นเป็นแรงจูงใจให้เขามีการคิดทำการที่เลวร้ายมาเรื่อย ๆ ส่วนพระเอกก็จะโดนเล่นปมว่าตัวเองเป็นเด็กสุดแสบ ในอดีตมีเหตุให้ต้องพลัดพรากกับแม่และเขาก็ต้องการตามหามาตลอดเพราะว่าเข้าเองก็ต้องการมีครอบครัวที่มีความสุข

 

 

รีวิวหนัง ชาแซม Shazam การดำเนินเรื่อง

หลังจากผู้ใหญ่ได้เป็นฮีโร่กันมาเยอะแล้ว ก็คงจะได้เวลาของวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ได้จับพลัดจับผลูขึ้นมาเป็นยอดมนุษย์กับเขาบ้าง เขาเป็นแค่เด็กชายวัย 14 ขวบคนหนึ่งที่บังเอิญได้ไปพบกับพ่อมดคนสุดท้ายที่ผดุงคุณธรรมดา เฝ้าดินแดนหอพระคัมภีร์แห่งนั้นเอาไว้ ไม่ให้จอมมารเจ็ดบาปนั้นได้ออกมาอาละวาด ทว่า นานวันก็ยิ่งอ่อนแรง จึงได้ความคิดว่าน่าจะหามนุษย์สักคนที่มีจิตใจดีพอจะสืบทอดพลังเพื่อช่วยโลกได้ แต่….ก็ไม่มี แถมยังไปสร้างวายร้ายให้เกิดขึ้นกับโลกเสียอีก

เล่ามากไปเดี๋ยวจะสปอยล์ เอาเป็นว่า พลังนี้มิใช่ธรรมดา มันรวมเอาความสามารถของซูเปอร์ฮีโร่หลายๆ ตัวมารวมเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อมันอยู่ร่างเด็กผู้ไม่รู้อะไรเลยนอกจากเล่นสนุกไปวันๆ ความฮาจึงบังเกิดเมื่อเขากลายร่างเป็นผู้ใหญ่กล้ามโต

‘ชาแซม!’ แตกต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ ในฝั่ง DC พอสมควร ด้วยเพราะมันไม่ได้มาทางดาร์ก ไม่เคร่งเครียดจริงจัง ทว่ามันแนวกวนตีน แนวเด็กเกรียนๆ ที่ฟลุ้กได้พลังมาใช้อย่างไม่ทันได้คาดคิดมาก่อน เป็นเหมือนอีกมุมที่บอกให้โลกรู้ว่า เด็กกำพร้าธรรมดาๆ ที่ไม่ได้มีความดีอะไรพิเศษในตัวก็ยังถูกเลือกได้ รีวิวหนังออนไลน์

น่าเสียดายนิดหน่อยที่หนังดูไม่มีอะไรน่าตื่นตามากไปกว่าความฮาแบบกวนตีนได้โล่ของเหล่าเด็กเกรียน เล่นกันได้ถูกที่ถูกเวลา ก็พาเราหัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปกับพวกเขาได้ แม้ว่าเรื่องราวมันจะไม่ได้มีอะไรมาก ฉากแอคชั่นก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นตา หากง่วงๆ อยู่ก็ไม่ได้มีอะไรจะปลุกให้ตื่น

 

 

ถึงแม้ว่าซูเปอร์ฮีโร่อย่างชาแซม จะเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีแฟนคลับเหนียวแน่น ติดตามกันอย่างมากมายเฉกเช่นซูเปอร์แมนหรือแบทแมนที่โด่งดัง ได้รับการสร้างขึ้นจอใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถึงวินาทีนี้การที่หนังสามารถทำรายได้ทั่วโลก 159 ล้านเหรียญฯ (และยังไม่สิ้นสุดการฉาย) น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีว่า แฟนหนังฮีโร่ก็พร้อมที่จะเปิดรับตัวละครใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่น่าจะทำให้ตัวละครอย่างชาแซม กลายเป็นตัวละครที่อยู่ในความทรงจำของผู้ชม คือฮีโร่คนนี้แท้ที่จริงแล้วคือ “เด็กในร่างของผู้ใหญ่” ซึ่งนั่นหมายความว่าความคิด ระดับสติปัญญาของพวกเขาคือ การประมวลผลทางประสบการณ์ชีวิตของเด็กที่อายุไม่เกินมัธยมต้น!

เพราะฉะนั้นสิ่งที่หนังนำเสนอออกมาคือการบอกเล่าช่วงเวลาที่บิลลี่ แบทสัน (แอชเชอร์ แองเจล) ได้รับพลังวิเศษจากพ่อมดชาแซม ทุกครั้งที่เขาเอ่ยชื่อชาแซม ร่างกายของเขาจะเปลี่ยนเป็นชายในวัยผู้ใหญ่ที่มีพละกำลังอันแข็งแกร่ง

ช่วงต้นของเรื่อง หนังถ่ายทอดช่วงเวลาที่บิลลี่ต้องปรับตัวให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง โดยการที่มีเพื่อนสนิทอย่างเฟรดดี้ (แจ็ค ดีแลน กราเซอร์) เด็กชายซึ่งมีปัญหาทางร่างกาย แต่ชื่นชอบในการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับบรรดาซูเปอร์ฮีโร่

 

 

 

เลยผันตัวเข้ามาให้ความช่วยเหลือในการเป็นที่ปรึกษารวมไปถึงทดสอบว่าชาแซมนั้นมีพลังพิเศษอะไรบ้าง ซึ่งวิธีการลองผิดลองถูกของพวกเขา หนังก็ทำให้เราเห็นว่ามันเป็นวิธีการคิดแบบเด็กๆ คือทำอะไรยึดตามหลักความสนุก โดยไม่ค่อยคำนึงถึงผลลัพธ์ที่อาจจะตามมาและอาจจะเลวร้ายกว่าที่คิด

 

ความรู้สึกหลังดูหนังชาแซม Shazam

 

โดยตัวหนัง  มีจุดที่น่าสนใจสำหรับคอ หนังแบบ ไม่ต้องเป็นแฟน ดีซี ก็พอเข้าใจ คือหนังพยายามยก ฮีโร่ดัง ของค่ายอย่าง แบทแมน และ ซูเปอร์แมน มาพูดถึงแทบทั้งเรื่อง มองเผินเราอาจเห็นแค่การเกาะกระแสฮีโร่เซเลปของค่าย แต่คิดดูดีๆ เฮ้ย จุดร่วมของทั้งแบทแมน ซูเปอร์แมน และ ชาแซม คือเริ่มจากการเป็นพวกหนีครอบครัว หรือ มีปมครอบครัวอันปวดร้าว จนกระทั่งได้เจอครอบครัวใหม่ที่ตนเองอาจกังขาจนพยายามหนีอยู่ตลอด แต่เอาเข้าจริงเมื่อขึ้นชื่อว่าครอบครัวแล้ว มันก็ต้องอยู่สู้กันไปจนถึงที่สุด 

โดยหนังใส่ ฉากเอามือประสาน กันบนโต๊ะ อาหารที่ ดูผ่านๆแทบคิด ไม่ถึงเลยว่าต่อมามัน จะมีความสำคัญ กับเรื่องอย่างไร จนกระทั่งหนังเฉลยนี่แหละแทบกรี๊ดเลย และโดยปริยายมันก็ทำให้ Shazam! หลุดพ้นการเป็นเพียงหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เราได้แต่ดูพระเอกโชว์ความเก่งปราบปรามผู้ร้าย ทีละน้อยเรากลับสัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวเรื่องครอบครัวของบิลลี่และมันยังทำให้ความหมายของพลังที่แท้จริงของหนังทั้งลึกซึ้ง อบอุ่นหัวใจ และแน่นอนเจ๋งเป็นบ้าเลย

หนังมีการเล่าเรื่องค่อนข้างเร็ว เพราะพล็อตหนังไม่ได้จี้ปมครอบครัวเป็นหลัก ทำให้เมื่อผมรู้สึกกำลังจะเศร้าเรื่องปมครอบครัว หนังก็ย้ายจิตคนดูไปที่เหตุการณ์อื่นซะแล้ว แต่ก็ดีครับเพราะไม่อยากน้ำตาซึมมาก อายคนข้าง ๆ ที่ไปดูหนังด้วยกัน

 

 

คะแนนเนื้อเรื่อง 9/10 หนังเน้น ไปที่ความอบอุ่น ในหัวใจเกี่ยวกับ ครอบครัว โดยมีฮีโร่มาเป็นส่วนประกอบ หนังมีพาร์ทขำ ๆ ให้คนดูได้อมยิ้มเพราะความตลกของShazam ฉากแอ็คชั่นมีมาบ้างแต่ไม่ได้อลังการงานสร้าง หนังต้องการสื่อให้คนดูเห็นว่าพลังที่แท้จริงก็เกิดขึ้นจากหัวใจได้เช่นกัน

คะแนนเอฟเฟคต์ 8/10 ด้วยความที่หนังไม่ได้เป็นแบบฉบับฮีโร่ที่ช่วยกอบกู้โลก เพราะฉะนั้นการช่วยเหลือผู้คนในชุมชนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เลยทำให้ฮีโร่ตัวนี้ไม่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์และพลังเยอะเท่าที่ควร แต่เมื่อมีฉากบู๊แน่นอนว่าภาพสวยแบบไม่ต้องสืบ CG เขาสวยงามและดูเป็นธรรมชาติ บางซีนก็เหนือจินตนาการเช่นกัน ดูหนังใหม่ได้ที่ ดูหนังฟรี  ดูหนังออนไลน์  ดูหนัง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *