รีวิว The Sea Beast

รีวิว The Sea Beast

รีวิว The Sea Beast

รีวิว The Sea Beast ที่มา

รีวิว The Sea Beast (อสูรทะเล)  แอนิเมชันเรื่องล่าสุดจากทางสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง Netflix ที่กำลังมาแรงแซงหน้าแอนิเมชันจากค่ายใหญ่ ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี กับการเล่าเรื่องราวแบบฉบับที่คนดูต้องร้องว้าวแม้จะมีกลิ่นอายไม่ต่างจากแอนิเมชันเรื่องดังเรื่องอื่น ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง The Sea Beast ( อสูรทะเล ) ที่ได้เครดิตจากผู้กำกับมือดีอย่าง Chris Williams ( Bolt 2008, Big Hero 6 2014 และ Moana 2016 ) ที่กระตุ้นความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้น่าดูมากขึ้นไปอีก ทำให้คนดูได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกันว่าภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้จะ รุ่ง หรือ ร่วง กันแน่ แต่ที่รู้ ๆ The Sea Beast นั้นก็ได้เข้าไปอยู่ในความสนใจของผู้ชมทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วดูหนัง

รีวิว The Sea Beast

เรื่องราวของ Jacob Holland (พากย์เสียงโดย Karl Urban) หเรื่องราวของตัวละครเด็กหญิงกำพร้าชื่อว่า Maisie ที่หลงใหลในการเป็นนักล่าอสูรทะเล เนื่องจากมี Jacob Holland ลูกเรือของกัปตัน Crow หนึ่งในนักล่าอสูรมือฉมังเป็นไอดอล โดยในวันหนึ่ง Maisie ได้แอบขึ้นเรือของเหล่านักล่าอสูรเพื่อหวังจะไปติดตามการล่า “เจ้าแดงคำราม” อสูรทะเลในตำนานที่ดุร้าย เนื่องจากกัปตัน Crow (พากย์เสียงโดย Jared Harris) เคยเผชิญหน้ากับอสูรแดงและเสียตาไป 1 ข้าง ทว่าการล่าของพวกเขาไม่สำเร็จ ทำให้รัฐบาลตัดสินใจจะไม่ขอความช่วยเหลือจากนักล่า และจะสร้างเรือรบเพื่อล่าอสูรเอง แต่สุดท้ายก็เจรจาเพื่อแข่งขันกัน โดยพวกนักล่าแข่งกับเรือรบของรัฐ ใครล่าได้คนนั้นชนะดูหนังออนไลน์

ทว่าเรื่องมันไม่ง่ายแบบนั้น เพราะเด็กสาวที่อยากเป็นนักล่านามว่า Maisie (พากย์เสียง Zaris-Angel Hator) ได้แอบขึ้นเรือมาด้วย ทำให้เธอต้องติดสอยห้อยตามไปด้วย และ Jacob ต้องรับหน้าที่คอยดูแลเธออย่างไม่มีทางเลือก สุดท้ายแล้วบทสรุปของการผจญภัยครั้งนี้จะเป็นอย่างไร พวกเขาจะเจอกับเรื่องราวน่าทึ่ง และอุปสรรคอะไรบ้างนั้น ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง TheSea Beast (อสูรทะเล) ดูได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix

หากใครยังจำได้ดี ในช่วงปี 2010 ทางสตูดิโอผู้สร้างอย่างค่าย DreamWorks Animation ก็ได้ปล่อยภาพยนตร์แอนิเมชันสุดเท่เรื่อง How To Train You Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร) ออกมาให้ผู้ชมได้ลิ้มรสตำนานไวกิ้งกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งในปี 2014 เรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs 2 (มหัศจรรย์ ของกินดิ้นได้) ก็กลับมาฉายโรงเรียกยอดคนดูได้อีกครั้งด้วยธีมเรื่องสุดกาวไม่ต่างจากภาคแรก โดยทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมาไม่มีความยึดโยงใด ๆ กับเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) เลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งค่ายผู้สร้างและผู้กำกับ รวมไปถึงนักแสดงผู้ให้เสียงพากย์ในเรื่องด้วยดูหนัง,

แต่เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว อาจทำให้ใครหลายคนเริ่มย้อนกลับไปคิดถึงเนื้อเรื่องของ How To Train You Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร) และเรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs 2 (มหัศจรรย์ ของกินดิ้นได้) ว่าทั้ง 2 เรื่องนั้นเป็นแอนิเมชันที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งธีมหลักของเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด รวมถึงเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) ด้วยแล้วดูหนังออนไลน์

รีวิว The Sea Beast

อาจกล่าวได้ว่าไม่มีการนำเสนอเรื่องราวที่แปลกใหม่หรือแตกต่างไปจากขนบเดิม ๆ อย่างที่แอนิเมชันหลาย ๆ เรื่องเคยทำมาก่อนเลย แต่ใช่ว่าการสร้างสรรค์ผลงานจากสูตรสำเร็จจะเป็นเรื่องที่แย่ หากเรื่องราวเหล่านั้นถูกเล่าและถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และ The Sea Beast (อสูรทะเล) ก็ทำออกมาได้ดีอย่างที่โปรโมตไว้ในตัวอย่าง โดยการนำพาผู้ชมเข้าถึงแก่นหลักของภาพยนตร์อย่าง “ความเข้าใจผิด” ได้อย่างถ่องแท้ แต่อาจจะมี Mood And Tone ของเรื่องที่เอนเอียงไปทาง How To Train You Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ) เสียมากกว่า เนื่องจากเป็นการเล่าเรื่องด้วยคีย์เวิร์ดหลักอย่างคำว่า “ตำนาน” ผสมผสานอยู่ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น บทพูดที่ถูกทีมงาน Netflix แปลไทยมาแล้วอย่างดี ก็ยังบาดลึกกินใจคนไทยบางส่วน (ใหญ่) ไม่ต่างอะไรกับ Don’t Look Up (ดาวหางดับโลก) ที่มีไดอะล็อกจี้ปมคนในประเทศโลกที่ 3 ได้อย่างเฉียบขาด ทำให้เรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) นั้นสามารถเข้าไปครองที่นั่งในใจคนดูได้ไม่ยากรีวิวหนังใหม่

รีวิว The Sea Beast

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความคิดเห็นเล็ก ๆ หลังจากที่รับชมภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) จบลง แม้จะเป็นการเล่าเรื่องแบบสูตรสำเร็จแต่กลับไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด อีกทั้งบทพูดที่ดูจะตลกร้ายกับคนไทยไปหน่อยก็เป็นเหมือนกิมมิคเล็ก ๆ ที่ทำให้เรื่องนี้น่าดูยิ่งขึ้นไปอีก หากวันหยุดนี้ใครยังไม่มีแพลนที่จะทำอะไรสามารถรับชมเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) พากย์ไทยเต็มเรื่องผ่าน Netflix ก็เป็นแพลนที่ไม่แย่สักเท่าไร รับรองว่าดูแล้วจะไม่รู้สึกเสียดายเวลาแน่นอน

สรุป

เริ่มที่เรื่องบทกันก่อน บทของเรื่องนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ ไม่ได้เห็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่มีบทกลมกล่อมแบบนี้มานานแล้ว คือบทมันค่อนข้างละเอียด และครบรสพอสมควรเลย ตอนแรกคิดว่าจะต้องเป็นการ์ตูนขายเด็กแน่ๆ แต่กลายเป็นว่าผู้ใหญ่ก็ดูได้ เพราะบทไม่ได้อ่อนหรือเน้นแต่ความสนุก แต่บทยังน่าติดตามและมีจุดน่าสนใจไม่น้อยเลย ส่วนตัวผมว่าบททำออกมาได้ดีแล้ว ไม่มีอะไรจะติมากมาย บทกำลังดีเลย ไม่ลึกเกินไปและไม่ตื้นเขินจนเกินไป ต่อมาด้านการดำเนินเรื่อง ส่วนนี้ก็ทำได้ดีเช่นกัน เรื่องราวน่าติดตาม ดำเนินเรื่องได้ดี ไม่เร็วไปไม่ช้าไป เล่าเรื่องเข้าใจง่าย กระชับ ไม่มีส่วนไหนที่รู้สึกเบื่อเลย ในส่วนนี้ก็ไม่มีอะไรจะติเช่นกัน

ต่อมาด้านงานภาพ ส่วนนี้คือ 10/10 จริงๆ งานภาพดีงามจนละสายตาไม่ได้เลย ทั้งแสง เงา รายละเอียดต่างๆ ทุกอย่างละเอียดยิบ และเวลาฉากสู้กับอสูรกลางทะเลนี่คือสุดมาก ออกแบบฉากแอ็คชั่นได้ดีงามมาก ละอองน้ำ การเคลื่อนไหวของน้ำ ทำได้ดีจริงๆ ละเอียดทุกเฟรม บอกเลยใครชอบอนิเมชั่นงานภาพสวยๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน รับประกันเลย การออกแบบตัวละครก็ดีงามมากๆ ทุกตัวมีเอกลักษณ์และน่าจดจำ คือเรื่องนี้เรียกได้ว่าคุณภาพระดับฉายโรงภาพยนตร์เลย ถ้าเอาไปฉายก็ไม่น่าเจ๊ง เพราะมันดีงามทุกด้านจริงๆ ทุกอย่างกำลังดี เคมีของตัวละครหลักทั้ง 2 ก็ดีงามเช่นกัน วางพื้นหลังตัวละครมาดี ไม่มีอะไรจะติเลย

เรื่องเพลงประกอบ งานพากย์ ก็ทำได้ดีทั้งคู่เช่นกัน ดียันพากย์ไทยเลย  ทุกอย่างเพอร์เฟ็ค ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แถมยังดูได้ทุกเพศทุกวัย

ชื่อเรื่อง : TheSea Beast (อสูรทะเล)
ผู้กำกับ : Chris Williams
แนว : แฟนตาซี , แอ็คชั่น , คอมเมดี้ , ผจญภัย
ความยาว : 115 นาที
ระบบเสียง : พากย์ไทยและบรรยายไทย
ช่องทางการรับชม : Netflix
คะแนน : 9/10

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *