รีวิว The White Tiger

รีวิว The White Tiger

รีวิว The White Tiger

รีวิว The White Tiger เรื่องย่อ

พลราม ( อาดาร์ช กอราฟ ) คนขับรถสุดทะเยอทะยาน ที่ทำงานให้ สองสามีภรรยา เศรษฐีชาวอินเดีย  ( ปริยังกา โจปรา โจนัส และ ราจคุมมาร์ ราว ) ใช้สติปัญญาและเล่ห์เหลี่ยมปลดเปลื้องตัวเองจากความยากจน และผันตัวไปเป็นนักลงทุน ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ 

เน็ตฟลิกซ์ได้คอนเทนต์เพชรเม็ดงามมาฉายอีกครั้ง กับหนังอินเดียที่ดัดแปลงจากหนังสือขายดีของ อาร์วินด์ อดิกา เรื่อง พยัคฆ์ขาวรำพัน (The White Tiger) โดยได้การกำกับ และ เขียนบทของ รามิน บาห์รานิ เจ้าของผลงานอย่าง Fahrenheit 451 ( 2018 ) ที่เคยเข้าชิงรางวัลเอมมี่ไพรม์ไทม์สาขาหนังทีวียอดเยี่ยมมาแล้ว และนี่ก็เป็นการมาร่วมงานกับเน็ตฟลิกซ์โดยมีโพรดิวเซอร์มือรางวัลอย่าง เอวา ดูเวอร์เนย์ ที่เคยกำกับผลงานชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาแล้วกับ Selma ( 2014 ) มาช่วยอำนวยการสร้างให้ด้วย แต่เหนือกว่ารายชื่อทีมงานที่น่าสนใจแล้ว ก็คือ หนังเล่าเรื่องสนุกมากรีวิวหนังใหม่

รีวิว The White Tiger

 

The White Tiger มีวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจคือ ให้ตัวของนายพลรามเป็นคนเล่าเรื่องให้คนชมฟังโดยตรง เปิดเรื่องขึ้นมาว่าเขาได้กลายเป็นคนร่ำรวยของอินเดียแล้ว แต่เขาจะกว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เขาจึงเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปในเวลาที่แสนยากจน แล้วเมื่อเรื่องเดินทางไปถึงจุดเปลี่ยนสำคัญแต่ละครั้ง ก็ตัดสลับมาที่ตัวของพลรามใจปัจจุบัน ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าการเล่าแบบนี้ทำให้เราไม่เบื่อครับรีวิวหนังใหม่ชนโรง

รีวิว The White Tiger

 

หนังมีความโดดเด่นอย่างมากในการใช้สัญลักษณ์ประกอบการเล่าเรื่องเช่น พลรามได้พูดถึงคนชนชั้นล่างของอินเดียที่มีอยู่อย่างมหาศาลเหมือนว่าทุกคนนั้นถูกขังใจกรงไก่ที่อยู่ในโรงเชือด ไก่ทุกตัวรู้ว่าในอนาคตจะต้องถูกเชือดแน่นอน ไก่ไม่สามารถหนีออกจากกรงได้ แต่ตัวพลรามก็ยังพยายามหาทางออกจากกรงไก่ หรือ ครั้งที่เจ้านายของพลรามได้นอนเลยโรงแรมสุดหรู แต่ตัวเขาเองต้องนอนอยู่ชั้นลานจอดรถใต้ดิน ในห้องที่อับชื้น เขาต้องกางมุ้งนอนเพื่อไม่ให้แมลงสาบจำนวนมากเข้ามาอยู่ในมุ้ง หนังได้ทำให้เห็นงานประติมากรรมมหาตมะคานธีพาผู้คนเดินข้ามฝั่งไปร่อนเกลือเพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยมอังกฤษ เป็นงานประติมากรรมที่พูดถึงความเป็นประชาธิปไตย แม้ว่าอินเดียจะเป็นประชาธิปไตยมานานแล้ว แต่ในทางปฏิบัตินั้นหาความเป็นประชาธิปไตยไม่ได้เลย คนที่มีอำนาจมากก็มีเสียงที่มากกว่า แม้ว่าจะมีการเลือกตั้ง แต่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองก็มีเงินสะสมจากนายทุนมหาศาล หรือแม้แต่นักสังคมนิยมเองที่ผู้คนต่างสรรเสริญว่าต่อสู้ช่วยเหลือผู้คนชนชั้นล่าง แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วก็แสวงหาผลประโยชน์เข้าตนเองแทบทั้งนั้น

รีวิว The White Tiger

เอาเข้าจริง ๆ แล้วเรื่อง The White Tiger ก็ไม่ได้แสดงความกดขี่ทางด้านชนชั้นอย่างสุดโด่งมากนัก แม้พลรามจะถูกเอาเปรียบจากเจ้านายและครอบครัวของเจ้านายก็ตาม หรือเป็นทาสรับใช้ที่ดีดูแลเจ้านายอย่างเต็มที่ด้วยความภูมิใจ แม้จะมีการถูกกระทำย่ำยีจิตใจบ้าง ไล่ระดับไปจนถึงให้รับผิดชอบในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ แต่สิ่งหนึ่งที่มันทำให้เราดูแล้วรู้สึกสะเทือนใจมากกว่าเรื่องการกดขี่ก็คือ แรงกดดันที่เกิดจากครอบครัวของพลรามเอง ครอบครัวใหญ่ของเขาก็หวังเงินจากคนรามด้วยแทนทั้งสิ้น บังคับให้พลรามส่งเงินมาให้ครอบครัว และทำตามในสิ่งที่ย่าของเขาบังคับทำตั้งแต่เด็ก และเหนือสิ่งอื่นใดแล้วสิ่งที่กดขี่พลรามได้มากที่สุดก็คือขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของชาวอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นการปลูกฝังความคิดว่าคนที่เป็นทาสรับใช้ก็ต้องภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ต้องภูมิใจในการรับใช้ และรวมถึงขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องของการแต่งงาน

รีวิวThe White Tiger

ดังนั้นสัญลักษณ์กรงไก่ที่พลรามได้พูดถึงเอาไว้จึงมีความหมายหลายนัยที่เราคนดูต้องตีความเอาเอง

สิ่งหนึ่งที่งดงามในหนังเรื่องนี้ก็คือ การใช้คำคมเท่ ๆ หรือคำพูดที่มีความหมายเสียดแทงใจ สอดแทรกในหนังอยู่ตลอดแทบทั้งเรื่อง ซึ่งคำคมหรือคำพูดเหล่านี้เกิดมาจากการเรียนรู้การใช้ชีวิตและการตั้งคำถามของตัวพลราม ตั้งแต่เด็กจนโตเช่น

“อย่าเป็นคนจนในโลกประชาธิปไตย”

“บริษัทจะประสบความสำเร็จได้จะต้องรู้จุดอ่อนของคู่แข่ง”

“คนรวยเกิดมากับโอกาสที่เสียไปได้”

“วรรณะในอินเดียเหลือ 2 วรรณะ วรรณะพุงป่องกับวรรณะพุงแฟบ”

“เราเกลียดเจ้านายของเราก่อนที่พวกเราจะรักเขา หรือเรารักเขาก่อนที่พวกเราจะเริ่มเกลียด”

“คนจนจะกลายเป็นคนรวยได้นั้นมีแค่ 2 วิธีคือ ก่ออาชญากรรม หรือไม่ก็เล่นการเมือง”

รีวิวThe White Tiger

ซึ่งแต่ละคำพูดที่ออกมาจากปากของพลรามนั้น มันทำให้พลรามได้โตขึ้น และมันสามารถทำให้เขาหาทางออกจากกรงไก่ของเขาได้

หนังได้ทำให้เราเห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันของสังคมอินเดียอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันก็ทำให้เราเห็นถึงความขัดแย้งของขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของชาวอินเดีย กับระบบเสรีนิยมจากชาติตะวันตก ที่ไม่สามารถหาจุดที่มันลงรอยได้อย่างลงตัว และในขณะเดียวกันหนังก็ยังบอกกับเราอีกว่า ต่อให้เรามีความเป็นหัวสมัยใหม่มากแค่ไหน แต่หากเราไม่สามารถปรับใช้กับบริบทของสังคมและประเทศที่เราอยู่ได้ มันควรก็ต้องตายไปในที่สุด

ดังนั้น ต่อให้คนที่หัวก้าวหน้าที่สุด หัวประชาธิปไตยที่สุด หัวสังคมนิยมที่สุด ยากดี มีจน สักเพียงไหนก็ตาม ก็ยังติดอยู่ในกรงไก่ของตัวเอง รอวันถูกเชือดในแบบของแต่ละคน

อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยนี้แล้วหนังก็ทำให้เห็นว่าหากผู้คนยังยึดติดอยู่กับขนบธรรมเนียมแบบเดิม ยอมรับในวรรณะของตนเองโดยไม่มีการพัฒนาตนเอง หรือพยายามเปลี่ยนแปลง มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เช่นตัวของพลรามเขารู้จักการแก้ไข เรียนรู้ พัฒนา แม้ว่าจะใช้วิธีที่ไม่ได้ขาวสะอาดบ้างนะก็ตาม ที่สุดแล้วเขาก็สามารถออกจากกรงไก่ของเขา และท้ายที่สุด จากสิ่งมีชีวิตแทบไม่มีตัวตนก็สามารถกลายเป็นเสือขาวได้เช่นกัน

รีวิวThe White Tiger

เวลาที่หนังจะทำให้เราบันเทิงก็ทำได้ดีมากมันทำให้เราติดหนึบ จนทำให้เวลา 2 ชั่วโมงของหนังผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ในจังหวะที่เขาต้องการให้เราดำดิ่ง เขาก็ดึงเราจนลงลึกและอินกับหนังจนไม่สามารถดึงอารมณ์กลับมาได้เลย ยิ่งช่วงท้ายๆที่พลรามได้กระทำหลายสิ่งหลายอย่างออกไปในสิ่งที่ไม่ควร เรากลับเอาใจช่วยพลรามเฉยเลย

ในด้าน Production ก็เป็นไปตามมาตรฐานของอินเดีย ที่ผมมองแล้วมันดีมาก มีการเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำไปเรื่อย ทำให้เห็นความแตกต่างกันอย่างสุดขั้วของอินเดีย

ส่วนในด้านฝีมือการแสดงแล้ว คนที่รับบทเป็นคนรามนั้นเล่นได้ดีมาก มันดีจนขนาดที่ว่า ถ้าการแสดงแบบนี้อยู่ในฮอลลีวูด ก็มีหวังได้ชิงรางวัลดารานำชายออสการ์ได้เลย แม่จะดูหนังเรื่องนี้เองก็ตาม ผมเชื่อว่า มีศักยภาพมากพอ ที่สามารถเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้ เพราะดูแล้วก็ไม่มีอะไรดิยว่า Parasite ของบองจุนโฮเลยสักนิด

รีวิวThe White Tiger

ส่วนสัญลักษณ์สำคัญที่สุดของเรื่อง มันก็อยู่ในคำพูดของพิ้งกี้ ภรรยาสาวของอโศกนั่นแหละ ที่เธอได้พูดกับคนรามว่า “เธอมัวแต่มองหาทางออก ทั้ง ๆ ที่มีกุญแจอยู่แล้ว” หนังก็เหมือนจะบอกกับเราว่า เราถูกขังในกรงไก่ก็จริง แต่เราเองสามารถออกมาจากกรงนั้นได้ เพียงแต่เราพยายามหรือตั้งใจจะออกหรือเปล่า

ความรู้สึกหลังดู

รีวิวThe White Tiger

The White Tiger คือภาพยนตร์อินเดียที่สะท้อนสังคม ชนชั้นของอินเดียได้อย่างลุ่มลึก จิกกัดแวดวงการเมือง นักสิทธิมนุษยชน และศาสนาของอินเดียได้อย่างเจ็บแสบ คงไม่สามารถเล่าหรือแสดงความรู้สึกอะไรไปมากกว่านี้ อยากให้ทุกท่านได้ไปเสพภาพยนตร์เและรับรู้ความงามของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตนเอง ซึ่งเชื่อว่าถ้าคุณชอบหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันของชนชั้น อย่างเช่น Snowpiercer และ Parasite ของบองจุนโฮ หรือของหนังที่ตั้งคำถามสังคมอย่างเฉียบคมเช่น PK , 3 Idiots และ Sanju โดยผู้กำกับ ราจคูมาร์ ฮิรานี ผมเชื่อว่า คุณจะต้องรัก The White Tiger อย่างแน่นอน

จุดเด่น

บทจากหนังสือขายดีที่ใช้สไตล์ตลกร้ายเล่าเรื่องชะตาเล่นตลกของยาจกผู้พิชิตเมืองได้อย่างสนุกมาก การแสดงของดาราอินเดียก็หายห่วงมาก ๆ ที่สำคัญ อาดาร์ช กอราฟ พระเอกฉายแสงได้น่าสนใจไม่แพ้ครั้ง เดฟ พาเทล ทำตอนแจ้งเกิดเลย

ชื่อภาพยนตร์: The White Tiger / พยัคฆ์ขาวรำพัน

ผู้กำกับภาพยนตร์: Ramin Bahrani/รามิน บาห์รานิ

ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Ramin Bahrani/รามิน บาห์รานิ

นักแสดง: Adarsh Gourav/อาดาร์ช กอราฟ, Rajkummar Rao/ราจคุมมาร์ ราว, Priyanka Chopra/ปริยันกา โชปรา โจนัส

ดนตรีประกอบ: Danny Bensi, Saunder Jurriaans

แนว/ประเภท: Crime, Drama

ความยาว: 125 นาที

ปี: 2021

อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1

เรท: ไทย/-, USA/-

วันเข้าฉายในประเทศไทย: 22 มกราคม 2021 ทาง Netflix

ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: ARRAY Filmworks, Lava Media, Netflix

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *